สุราษฎร์ธานี - เมียนักธุรกิจขายส่งหอยแครงโร่แจ้งตำรวจหลังสามีหายตัวลึกลับ หวั่นเกิดอันตราย เผยก่อนหายตัวออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อน ตร.เร่งสืบหาพบร่องรอยคล้ายถูกลากใส่รถ
วันนี้ (3 พ.ค.) นางจินตหรา วศินทรัพย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่11/1 ม.1 ต.ตะกรบ อ.ไชยา เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ว่า สามีคือ นายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี อาชีพชาวประมงและนักธุรกิจขายส่งหอยแครง หายตัวปริศนาหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น.มีคนมารับที่บ้านเพื่อไปดื่มเหล้ากันที่ศาลาสำหรับต้อนรับแขก หน้าบ้านเลขที่ 89 ม.5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จะเกิดอันตรายกับสามี เพราะเมื่อไปสอบถามกับเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุถูกปฏิเสธบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่ทราบว่าหายไปไหน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าวปรากฏว่า พบคราบสีแดงมีลักษณะคล้ายเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุและบนถนนเป็นทางยาว และมีร่องรอยเอาน้ำมาล้างที่ศาลาและบนถนน แต่ไม่พบนายโกศล เรืองดุก ได้สอบถามเจ้าของบ้านแจ้งว่าได้เข้านอน ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 2 พ.ค.64 ไม่ทราบว่าที่หน้าบ้านมีเหตุอะไรบ้าง
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (3 พ.ค.) พล.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังร่วมกับกองปราบปรามกว่า 50 นาย ลงพื้นที่คลี่คลายคดี หาเบาะแสการสูญหาย โดยไล่เรียงจากภาพกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบรอยคราบเลือดก่อนถึงวัดตะกรบ ระยะทางประมาณ 3 กม.และพบร่องรอยรถวิ่งผ่านขึ้นเนินเสียหลักชนกับเสาปักแนวเขตวัดห่างจากวัดประมาณ 300 เมตร พุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงหัก และยังพบรอยเลือดบนถนนเป็นทางยาวคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะลากร่างผู้สูญหายไปใส่รถอีกคัน
จากการสอบถามพระลูกวัด ทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ได้ยินเสียงรถชนบริเวณเสาไฟฟ้า และได้ยินเสียงดังไม่มั่นใจว่าเป็นเสียงอะไร จึงไม่กล้าออกมาดู จนกระทั่งตอนเช้าเดินออกไปดูพบเสาปักแนวเขตวัดและเสาไฟฟ้าหัก พบรอยเลือดเป็นทางยาวมุ่งหน้าชายหาดลงทะเล
ขณะที่นางจินตรา วศินทรัพย์ ภรรยาผู้สูญหายบอกว่า ไม่อยากทำหรือคิดอะไรแล้ว ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตอนนี้เชื่อว่าสามีถูกทำร้าย ขอร่างสามีกลับคืนมาเท่านั้น ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร เพราะกลัวอิทธิพล ส่วนสาเหตุไม่มั่นใจว่าเกิดจากอะไร ธุรกิจขายส่งหอยเป็นตลาดที่ไม่มีการแข่งขันกับใคร
ด้านนายธีรศักดิ์ อินทรจักร อายุ 50 ปี พี่ชายของผู้สูญหาย กล่าวว่า น่าจะเกิดจากปัญหาขัดแย้งทางธุรกิจ เรื่องส่วนตัว และการเมืองท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้ง อบต.ตะกรบ ในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบต.กันแล้ว และผู้สูญหายแม้จะไม่ลงสมัครเองแต่เป็นคนกว้างขวางเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในละแวกนี้
