xs
xsm
sm
md
lg

"สงขลา" คุมเข้มชายแดนมาเลย์หวั่นโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย-แอฟริกาใต้ลามเข้าไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯ สงขลาออก 4 มาตรการคุมเข้มพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียป้องกันการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย-แอฟริกาใต้ ที่ระบาดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ป้องกันการลุกลามเข้ามายังประเทศไทย

วันนี้ (3 พ.ค.) สถานการณ์โควิด-19 ที่ จ.สงขลา เริ่มมีความกังวลกันว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ ที่ระบาดอยู่ในประเทศมาเลเซียจะลามมายังประเทศไทยจากคนไทยที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ทั้งที่เข้ามาถูกต้องและหลบหนีเข้ามาโดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผวจ.สงขลา เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้ทราบข้อมูลมา 2-3 สัปดาห์แล้ว และได้มีการประชุมร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซียแล้ว โดยกำหนดแนวทางป้องกันไว้ 4 แนวทางคือ 1.ให้ ตชด.และทหารเข้มงวดในการตรวจแนวรั้วชายแดนของ จ.สงขลาทั้ง อ.สะเดา นาทวี และสะบ้าย้อยมากยิ่งขึ้น 2.ให้ตำรวจและฝ่ายปกครองตั้งจุดตรวจจุดสกัดอีกชั้นในกรณีที่อาจหลุดรอดมาทางแนวชายแดน

3.ให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่แฝงตัวเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ และให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อนำไปกักตัว และ 4.กรณีที่อาจจะลักลอบเข้ามาทางระบบขนส่ง ซึ่งขณะยังมีการขนส่งข้ามแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ก็ให้ตรวจเพาะเชื้อคนขับทั้งคนไทยและมาเลเซีย และจะต้องมีใบรับรองตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกคน

“ที่ผ่านมา 99% ของผู้ที่เดินทางเข้ามา เป็นการเข้ามาอย่างถูกต้องทางด่านพรมแดนสะเดา สัปดาห์ละ 3 วันคือ จันทร์ พุทธ และศุกร์ วันละ 50-60 คน มีน้อยมากที่ลักลอบเข้ามา เฉพาะเดือนเมษายนจับได้ 5-6 คนเท่านั้น” นายจารุวัฒน์ กล่าว

ผวจ.สงขลา กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลฮารีรายอที่จะมาถึง ได้หารือกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแล้ว เพื่อให้งดกิจกรรมการเลี้ยงสังสรรค์ การรวมกลุ่ม ส่วนจะมีมาตรการใดเพิ่มอีกในช่วงวันฮารีรายอ ต้องรอฟังคำสั่งประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีอีกครั้ง

ด้าน พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหาราบที่ 5 ร้อย ร.5021 พร้อมกำลัง ตชด.437 ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางการป้องกันการลักลอบเดินทางเข้ามาทางแนวรั้วชายแดนและช่องทางธรรมชาติ ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะนำเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้เข้ามา

หลังจากนั้น ได้ร่วมกันปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คุมเข้มชายแดนไทย-มาเลเซียบริเวณหลักเขตแทนที่ 19 หมู่ 6 ต.สำนักขาม อ.สะเดา รวมถึงตลอดแนวชายแดนของ จ.สงขลา ทั้งพื้นที่ อ.นาทวี และสะบ้าย้อย ความยาวกว่า 60 กิโลเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงนี้ใกล้สิ้นสุดเดือนรอมฎอนหรือเดือนถือศีลอด ซึ่งอาจจะมีชาวไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียลักลอบเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติโดยไม่ผ่านการคัดกรองหรือกักตัว




กำลังโหลดความคิดเห็น