ปัตตานี - ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีออกคำสั่งจำกัดบุคคลเดินทางเข้าออกปัตตานีแล้ว ยกเว้นในกรณี 5 ข้อยกเว้นตามประกาศ พร้อมจัดตั้งด่านตรวจ 2 ฝั่งทางเข้าจากจังหวัดนราธิวาสและสงขลา
วันนี้ (28 เม.ย.) นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกคำสั่งจำกัดบุคคลเดินทางเข้าออกจังหวัดปัตตานี สั่ง ณ วันที่ 27 เมษายน 2564 โดยมีการผ่อนผันสำหรับกรณีผู้ที่เดินทางเข้าออกข้ามเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ผู้ขับรถขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น อาหาร เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าเกษตรที่จำเป็น น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุ/สินค้าอุตสาหกรรมไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ และสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก เป็นต้น
(2) ผู้ปฏิบัติงานในกิจการ/กิจกรรมเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการการสื่อสารโทรคมนาคม การก่อสร้าง การซ่อมบำรุงต่างๆ
(3) ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล การธนาคาร การศึกษา การขนส่งประชาชน
(4) ผู้เดินทางตามเงื่อนไขในกระบวนการยุติธรรม
(5) เจ้าหน้าที่ผู้เดินทางไปปฏิบัติราชการตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ มีผลตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา
นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ตอนนี้เรามีการตั้งด่านทางเข้าจากฝั่ง จ.สงขลา และจากฝั่ง จ.นราธิวาส ซึ่งทุกคนที่เข้าออกตรงนี้ต้องมีการรายงานตัวที่ด่าน แวะที่ด่าน บอกที่ด่านว่ามาจากไหนจะไปไหน ถ้าเป็นคนนอกพื้นที่จะมาปัตตานีก็ต้องบอกด้วยว่ามากี่คืน หรือถ้าเป็นคนปัตตานีที่ไปนอนหาดใหญ่ ก็จะต้องบอกด้วยว่าจะกลับไปไหน แล้วเราจะให้ไปรายงานตัวที่ อสม. หรือหากไม่สะดวก เราจะส่ง อสม.ไปตรวจสอบ คือเมื่อมารายงานตัวที่ด่านเราก็จะส่งข้อมูลไปที่ รพ.สต. ซึ่งถ้าเขาไม่มารายงานตัวตามที่บอกเราก็จะรู้ และจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคัดกรอง
ซึ่งผู้ติดเชื้อของปัตตานีทั้งหมด 63 คนที่รักษา เชื้อเกิดจาก 2 ที่ คือ คนจาก จ.สงขลา และจาก จ.นราธิวาส ดังนั้น จึงได้ตั้งด่านเพื่อคัดกรองคนที่เข้ามาปัตตานี ส่วนฝั่ง จ.ยะลา เราถือว่าไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงก็สามารถเดินทางผ่านไปมาได้ปกติ เชื่อว่ามาตรการที่มีทั้งหมดตอนนี้จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง ถ้าไม่ได้ก็จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ
อยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ในเรื่องของการส้วมใส่หน้ากากอนามัย ตอนนี้เรามีมาตรการเข้มงวดมาก เราจับมาแล้ว 20 รายแล้ว เพื่อขอให้ช่วยกันตัวเอง และการรวมตัวทำกิจกรรมเกิน 50 คน คือ ปัตตานีไม่ได้ห้ามการทำกิจกรรมตามหลักศาสนาที่สำคัญ จะทำอะไรก็แล้วแต่อย่าให้เกิน 50 คน และดำเนินการตามมาตรการให้เคร่งครัด ส่วนสถานบริการต่างๆ เราปิดหมดแล้ว ไม่มีการขายสุราแล้วตามประกาศจังหวัดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด
ในส่วนของการรักษาพยาบาล เราเตรียมการมาครบถ้วน มีเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กักตัว พี่น้องที่มาจากมาเลเซีย อยู่ตามอำเภอ หรือคนที่เสี่ยงสูงมีโรงพยาบาลสนามเตรียมการพร้อมรับมือ ส่วนผู้ที่ติดเชื้อหรือมีโรคแทรกซ้อนจะมีโรงพยาบาลปัตตานี โรงพยาบาลโคกโพธิ์ และโรงพยาบาลยะรัง ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ
นอกจากนี้ เราจะประเมินสถานการณ์ทุกวัน เหมือนเมื่อวานมีผู้ติดเชื้อ 63 คน ถ้าวันนี้ขึ้นอีก พรุ่งนี้เพิ่มอีก เราต้องใช้วิธีการใหม่ เราจะมาดูว่าการที่เราใช้วิธีการห้ามคนจากข้างนอกเราสกัดได้แล้ว แต่ที่นี้เชื้อข้างในถ้ายังมีการกระจายอีกก็อาจต้องใช้วิธีการอื่น เช่น ปิดสถานที่ ปิดบางพื้นที่ ปิดบางหมู่บ้าน ชุมชนที่มีการกระจายของเชื้อ หรือถ้ากลางคืนยังมีผู้คนเพ่นพ่านอีกก็จะพิจารณาไปอีกขั้น คือ เคอร์ฟิว แต่บริบทของสงขลา ของนนทบุรี กับของปัตตานีไม่เหมือนกัน จ.ปัตตานี กลางคืนช่วงเทศกาลถือศีลอดคนไม่เพ่นพ่าน อาจไม่จำเป็นต้องใช้เคอร์ฟิว แต่ถ้ามีการกระจายจากจุดไหนเราก็ปิดจุดที่กระจาย อาจปิดหมู่บ้านไปตามจุดที่มีการกระจาย
“ตอนนี้กลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดหลักๆ ของ จ.ปัตตานี คือจากที่ร้านอาหารติดลม กลุ่มนี้เป็นส่วนใหญ่มีประมาณ 500 กว่าคน แต่เราบล็อกได้ทั้งหมดแล้ว ที่นี้เรายังไม่มั่นใจว่า นอกจาก 500 คนนี้ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่ เราพยายามเฝ้าระวังเต็มที่ ตรงไหนเยอะพยายามจะยกระดับขึ้น อีกส่วนเชื้อมาจาก จ.นราธิวาส เรารับมา 2 เคสแรกๆ ที่ไปงานศพที่ จ.นราธิวาส คือ คนไม้แก่น แล้วไปรักษาตัวที่ ม.อ. แล้วพามาติดพี่น้องที่ อ.หนองจิก ตรงนี้เราสามารถควบคุมได้แล้ว และตอนนี้เคสนี้จากไม้แก่นกลับบ้านไปแล้ว 4 ราย วันนี้เหลือรักษาตัวอีก 59 ราย รอดูว่าจะมีเพิ่มอีกหรือไม่ในวันนี้” ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าว