ตรัง - เกษตรกรหนุ่มชาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หันเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม แล้วส่งประมูลขายตลาดออนไลน์ หลังสนามกัดปลาปิดเพราะโควิด-19 ระบาด ปรากฏว่ามีผู้สนใจเพียบ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ สร้างรายได้ปีละกว่า 3 แสนบาท
นายอนุสรณ์ นวะกะ อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 4 ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้นำพื้นที่บริเวณข้างบ้านมาประกอบอาชีพเพาะขยายพันธุ์ปลาสวยงามสายพันธุ์ปลากัด สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว จากเดิมเมื่อประมาณปี 2550 ได้ออกจากงานประจำที่บริษัทจำหน่ายรถยนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง แล้วผันตัวเองมาประกอบอาชีพเลี้ยงปลากัด และไรแดงส่งขาย แต่เมื่อการระบาดของเชื้อโควิด-19 เข้ามา ทำให้สนามกัดปลาถูกสั่งปิดตามคำสั่งจังหวัด และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่งผลให้ขายปลากัดได้น้อยลง จึงลองปรับวิถีชีวิตของตัวเองใหม่ และศึกษาตลาดใหม่ พบว่า ปลาสวยงามสายพันธุ์ปลากัดกำลังเป็นที่ต้องการ และนิยมเลี้ยงของชาวต่างชาติ รวมทั้งขายง่ายทางออนไลน์ จึงหันมาเพาะเลี้ยงปลาสวยงามสายพันธุ์ปลากัด 20 บ่อ แต่ยังคงเพาะพันธุ์ปลากัด 100 บ่อ และเลี้ยงไรแดง 13 บ่อ เพื่อส่งขายลูกค้าอีกกลุ่ม จนสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ปีละกว่า 300,000 บาท
สำหรับปลาสวยงามสายพันธุ์ปลากัด ได้ซื้อพ่อพันธุ์มาจาก จ.พัทลุง เช่น พ่อพันธุ์แบล็กโกลสตาร์ ที่ราคาสูงถึงตัวละ 6,000 บาท ส่วนแม่พันธุ์ ถ้ามีสีสันสวยงามจะมีราคาประมาณตัวละ 3,000-4,000 บาท จากนั้นนำมาเพาะขยายพันธุ์จนได้ปลาสวยงามออกมารวมแล้วหลายหมื่นตัว โดยราคาขึ้นอยู่กับความสวยงามของปลาแต่ละสายพันธุ์ เช่น แบล็กโกลสตาร์ มีราคาตัวละ 3,000-10,000 บาท แบล็กสตาร์ มีราคาตัวละ 1,000 บาท และยังมีสายพันธุ์กาแล็กซี่ ซึ่งมีราคาดีมากเช่นกัน รวมทั้งสายพันธุ์มาเบิ้ลดอล์ เยลโล่โกล เรดกรากอน เยลโล่โกลดรากอน นอกจากนั้น ปลาสวยงามยังใช้เวลาเพาะเลี้ยงระยะสั้นๆ แค่ประมาณ 3 เดือนเศษก็สามารถจับขายได้แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อปลาสวยงามสายพันธุ์ปลากัดเริ่มโตได้ที่ นายอนุสรณ์ จะจับแยกไปใส่ในถังน้ำเปล่าบ้าง ใส่ขวดโหลบ้าง เพื่อเลี้ยงต่อไปให้ออกเครื่องสวยงาม หรือมีสีสันรอบตัวตามแต่ละสายพันธุ์ จากนั้นจะถ่ายรูปส่งเข้าประมูลในเฟซบุ๊กกลุ่มปลาสวยงาม ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวจะมีพ่อค้าคนกลางอยู่ด้วย ก็จะเข้ามาประมูลปลาเพื่อนำไปส่งขาย โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศจะนิยมปลาสวยงามสายพันธุ์ปลากัดไทยเป็นอย่างมาก เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน เยอรมนี อังกฤษ อเมริกา โดยก่อนนี้มียอดขายประมาณเดือนละ 20-30 ตัว แต่คาดว่าในอนาคตจะสามารถส่งขายได้เดือนละ 100-200 ตัว นอกจากนั้น ยังมีรายได้จากการขายปลากัด และไรแดง ซึ่งดีกว่าทำสวนยางเสียอีก เพราะลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเหนื่อย สำหรับผู้สนใจติดต่อได้ทางเฟซบุ๊ก “อนุสรณ์ นวะกะ” หรือโทร.09-6237-3059
