ปัตตานี - พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงติดตาม และเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้จับคนร้ายฆ่า 3 ศพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
วันนี้ (25 เม.ย.) พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางติดตามคดีสำคัญในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมสั่งการให้หน่วยในพื้นที่รับผิดชอบปฏิบัติการเชิงรุกควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอน โดยได้เดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรสายบุรี จ.ปัตตานี เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ประชาชน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บริเวณเกาะกลางถนนหมายเลข 42 พื้นที่บ้านละหาร ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ได้มารับฟังความคืบหน้าเรื่องคดีที่เกิดขึ้นกรณีคนร้ายลอบทำร้ายประชาชนเสียชีวิต 3 ราย ซึ่งตนได้เน้นย้ำว่าให้จับกุมผู้กระทำผิด และเกี่ยวข้องให้ได้ วันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนสอบสวน ชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 และชุดปฏิบัติการร่วมพิเศษด้านข่าวกรองจังหวัดปัตตานี ประชุมวางแผนบูรณาการการใช้กำลัง ซึ่งจากได้รับรายงานคดีมีความคืบหน้าเกี่ยวกับตัวคนร้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมวัตถุพยาน และหลักฐานต่างๆ วันนี้ได้กำชับให้ติดตามคดี และจับกุมคนร้าย พร้อมกับปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญเพื่อควบคุมพื้นที่ป้องกันการหลบหนี ตลอดจนปฏิบัติการด้านการข่าวเชิงรุก และสร้างความสัมพันธ์กับชาวบ้านในการแจ้งเบาะแส
ทั้งนี้ เพื่อจำกัดเสรีในการก่อเหตุซ้ำของแนวร่วมขบวนการ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือของกลุ่ม และได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมที่รับผิดชอบคดีให้มีความระมัดระวัง รอบคอบ ไม่ประมาท ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีทั้งรุกและรับให้เข้ากับสถานการณ์ ชิงความได้เปรียบ ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่ประชาชน
สำหรับการควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำหัวหน้าชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ประสานกำลังร่วมกับทุกภาคส่วนควบคุมพื้นที่จุดเสี่ยง จุดล่อแหลมในการก่อเหตุ และเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าลาดตระเวนกดดัน บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อลดความพยายามในการก่อเหตุให้มีประสิทธิภาพ และติดตามเป้าหมายสำคัญเร่งด่วนมาดำเนินการทางกฎหมายโดยเร็ว ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาควบคู่การใช้การปฏิบัติงานด้านการข่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด