ชุมพร - รวบเสี่ยนากุ้ง พร้อมยาบ้ากว่า 2 หมื่นเม็ด อ้างโควิด-19 ทำขาดทุนย่อยยับจนมีหนี้เป็นสินจำนวนมาก หันมารับงานให้เอเยนต์วางยาบ้าให้ลูกค้าตามจุดนัดหมาย
พ.ต.ท.ชาติลักษณ์ ดิเรกวัฒนะ ผบ.ร้อย ตชด.414 พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชุมดำ หน.ชุดปฏิบัติด้านงานข่าว ร้อย ตชด.414 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ควบคุมตัว นายจรูญศักดิ์ หรือโอ๊ะ ธนะไชย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 1 ต.ปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมของกลางยาเสพติดชนิดยาบ้า จำนวน 26,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 5 กรัม และรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 1 กร 2708 กรุงเทพมหานคร มาสอบสวนขยายผลที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414 ตำบลหงษ์เจริญ อ.แซะ จ.ชุมพร
ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชาติลักษณ์ ดิเรกวัฒนะ ผบ.ร้อย ตชด.414 ได้มีสายข่าวแจ้งมาว่า นายโอ๊ะ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 45 ปี รูปร่างท้วม ผิวดำ สูง ประมาณ 175 เซนติเมตร ได้เช่าบ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร เป็นที่พักยาเสพติดเพื่อส่งให้ผู้ค้า จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชุมดำ หน.ชุดปฏิบัติด้านงานข่าว ร้อย ตชด.414 นำกำลังตำรวจไปทำการวางแผนเพื่อทำการจับกุม
หลังจากนั้น ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชุมดำ หน.ชุดปฏิบัติด้านงานข่าว ร้อย ตชด.414 เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ริมถนนสายปากแพรก-วัดเชิงคีรี ห่างจากทางข้ามถนนตัดรถไฟเพียง 200 เมตร โดยบ้านปิดเงียบประตูล็อกไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน จึงได้จัดกำลังซุ่มเฝ้าดูอยู่รอบนอก จนกระทั่งเวลา 12.00 น.ของวันเดียวกัน มีรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 1 กร 2708 กทม. เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าบ้านแล้วคนขับเดินลงจากรถพร้อมถือถุงหิ้วพลาสติกสีเขียว แล้วเดินตรงไปเปิดประตูเข้าไปในบ้าน
เจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มรอจังหวะอยู่แล้วได้ออกมาแสดงตัวและแสดงบัตรเจ้าพนักงานปราบปรามยาเสพติดให้ชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายจรูญศักดิ์ หรือโอ๊ะ ธนะไชย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 1 ต.ปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบถุงพลาสติกสีเขียวที่ถือมาและแขวนอยู่ข้างฝาผนังบ้านในห้องครัว ภายในถุงมีกล่องนมผงสำหรับเด็กยี่ห้อหนึ่ง จึงนำมาตรวจสอบพบยาบ้าอยู่ในถุง จำนวน 11 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด และซุกอยู่ภายในกล่องนมอีก 2 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด และไอซ์อีก 5 กรัม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดเปิดเปิด อยู่ในกล่องเครื่องมือพลาสติกสีดำซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414 (ท่าแซะ)
จากการสอบสวน นายจรูญศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า เดิมทีตนเองประกอบอาชีพทำนากุ้ง เลี้ยงอยู่ใกล้บ้านใน อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งแรกๆ ได้กำไรดี มีเงินใช้จ่ายคล่องตัว แต่มาช่วงหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรก ปี 62 ตนเองเลี้ยงกุ้งขายขาดทุนมาโดยตลอด จนเริ่มมีหนี้สินมากมายต้องคอยหลบหนีเจ้าหนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มารู้จักกับนายเน ไม่ทราบชื่อจริง เป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในกรุงเทพมหานคร และได้ให้ตนเป็นคนคอยรับยาเสพติดที่ส่งมาให้ แล้วนำไปวางให้พ่อค้ารายย่อยในพื้นที่ อ.สวี โดยจะให้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่นบาท
นายจรูญศักดิ์ ให้การว่า ที่ทำเพราะความจำเป็นมีหนี้สินจำนวนมากจึงต้องหันมาค้ายาบ้า โดยในหนึ่งอาทิตย์นายเน จะโทร.ผ่านทางโทรศัพท์มือถือให้ตนเองไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆ ที่จะมีคนมาวางไว้ ซึ่งเมื่อตนเองไปรับก็จะนำมาพักไว้ที่บ้านที่เช่าหลังดังกล่าว และนายเน ก็จะโทรศัพท์มาบอกอีกครั้งว่าจะให้ไปวางให้ลูกค้าที่ไหน จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละอาทิตย์จะรับและไปวางไม่ต่ำกว่า 15 มัด เดือนละ 4 ครั้ง จะได้รับเงินเกือบ 1 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้งจนสามารถผ่อนชำระหนี้ได้แล้วไปบางส่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บักทึกปากคำให้การพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวี จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป