xs
xsm
sm
md
lg

ภูเก็ตจะได้เปิดเกาะ...รับต่างชาติพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ต้องถามรัฐบาลพร้อมจัดสรรวัคซีน-คนภูเก็ตพร้อมฉีดแค่ไหน?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภูเก็ตจำเป็นต้องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเท่านั้นถึงจะสามารถพลิกฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาได้ จะอาศัยนักท่องเที่ยวคนไทยเพียงกลุ่มเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตขับเคลื่อนต่อไปได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้คนไทยจะมาเที่ยวภูเก็ตแล้วก็ตาม แต่จำนวนและรายได้จากคนไทยปีละ 4 ล้านคน ไม่พอที่จะให้เศรษฐกิจภูเก็ตพลิกฟื้นให้เหมือนเดิมได้ ตอนนี้คนภูเก็ตอยู่ในภาวะจนเฉียบพลัน รายได้เฉลี่ยต่ำกว่าเส้นความยากจน หากไม่เปิดเมืองรับต่างชาติเข้ามารายได้คนภูเก็ตจะลดลงเรื่อยๆ เหลือเดือนละ 1,900 บาทในเดือน พ.ค.นี้ ภูเก็ตจึงจำเป็นที่จะต้องนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา

โดยกำหนดเป็นวันที่ 1 ก.ค.2564 ที่จะถึงนี้ ภายใต้เงื่อนไขคนภูเก็ตต้องปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น การเปิดเกาะภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.ค.นี้ โดยไม่มีการกักตัว นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาภูเก็ตได้นั้นจะต้องฉีดวัคซีนครบจำนวน 2 โดส ตรวจไม่พบเซื้อโควิด-19 และที่สำคัญคนภูเก็ต รวมถึงคนต่างจังหวัดที่มีทำงานในภูเก็ตจะต้องได้รับวัคซีนครบจำนวน 2 โดส ไม่ต่ำกว่า 70% ของจำนวนประชากรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกิดความมั่นใจมาเที่ยวภูเก็ตปลอดภัย และคนภูเก็ตเองจะได้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะไม่นำเชื้อมาแพร่ให้คนภูเก็ต
 
“การไม่กักตัว” เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตัดสินใจเดินทางมาพักผ่อนที่ภูเก็ต ซึ่งทางภาคเอกชนภูเก็ต ระบุชัดเจนว่า จากการหารือร่วมกับทัวร์โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ๆ ในยุโรปและรัสเซีย ได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า การกักตัวเป็นไปไม่ได้แง่ของการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่มาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตรวมถึงพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างแน่นอนหากต้องมีการกักตัว ไม่ว่าการกักตัวนั้นจะกี่วันก็ตาม ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลชาวต่างชาติที่เดินทางมาภูเก็ตหลังเปิดให้คนต่างชาติเข้ามากักตัว 14 วัน มีชาวต่างชาติเข้ามากักตัวน้อยตามโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัว แสดงให้เห็นว่าการกักตัวไม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยว


เมื่อต้องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาพลิกฟื้นเศรษฐกิจโดยไม่มีการกักตัว “วัคซีน” จึงเป็นปัจจัยสำคัญและเป็นความหวังเดียวที่จะเปิดเมืองสร้างรายได้ให้ภูเก็ตเดินต่อไปได้ จังหวัดภูเก็ตและภาคเอกชนจึงได้เสนอขอวัคซีนไปยังรัฐบาล 933,000 โดส เพื่อฉีดให้คนภูเก็ตสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จำนวน 466,587 คน ครอบคลุม 70% ของประชากรและคนทำงานในภูเก็ต

โดยมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้คนภูเก็ตตามทะเบียนราษฎร คนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จำนวน 417,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ขึ้นไปที่สามารถรับวัคซีนได้ มีจำนวน 310,000 กว่าราย คิดเป็น 74% ของจำนวนประชาชนในทะเบียนราษฎร ซึ่งมีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้แก่คนกลุ่มนี้ทั้ง 100% แรงงานด้านการท่องเที่ยวที่ไม่ย้ายทะเบียนบ้าน จำนวน 94,100 คน มีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มนี้ทั้ง 100% นอกจากนั้น ยังมีแรงงานในภาคธุรกิจอื่นที่ไม่ได้มีทะเบียนบ้านเข้ามาอีกจำนวน 7,000 คน คนกลุ่มนี้จะฉีดประมาณ 70% หรือประมาณ 5,000 กว่าคน แรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้ 81,000 ราย กลุ่มนี้จะฉีด 70% อยู่ที่ประมาณ 50,000 ราย



โดยที่ผ่านมา ภูเก็ตได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลมาแล้ว 4,000 โดส เมื่อต้นเดือน มี.ค.เพื่อฉีดให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า จำนวน 2,000 คน และในเดือน เม.ย.นี้ ทางจังหวัดภูเก็ตได้รับการจัดสรรวัคซีนอีก 100,000 โดส ในช่วงต้นเดือน และอีก 200,000 โดส ในช่วงปลายเดือนเมษายน และจะตามมาเดือน พ.ค.และ มิ.ย.เดือนละ 300,000 โดส ระดมฉีดให้ทันก่อนเปิดเมือง 1 ก.ค.นี้


จัดเตรียมทีมแพทย์ทั้งของรัฐและเอกชนไว้ 20 ทีมๆ ละ 20 คน และสถานที่ฉีดไว้ 9 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าจังซีลอนป่าตอง มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต สนามกีฬาสะพานหิน โรงพยาบาลฉลองและโรงแรมภูเก็ตออร์คิด รีสอร์ท โรงแรมสแปซ รีสอร์ท ธัญญปุระ อังสนาคอนเวนชั่นแอนด์เซ็นเตอร์

เพื่อให้เป้าหมายการฉีดวัคซีนครอบคลุมจำนวนประชากรในภูเก็ต 70% ภาคเอกชน นำโดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ได้ออกมารณรงค์กระตุ้นให้คนภูเก็ตออกมาฉีดวัคซีนเพื่อภูเก็ต โดยเฉพาะ 50,000 โดส ที่รัฐบาลจัดสรรมาให้ในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ จะจะต้องฉีดให้หมดภายใน 10 วัน เพื่อให้รัฐจัดสรรให้เพิ่มอีก 50,000 โดสในช่วงกลางเดือน เม.ย. ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย บุคลาการหน่วยงานภาครัฐที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น พนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานภูเก็ต พนักงานภาคเอกชนที่ทำงานอยู่ในสนามบินภูเก็ต แพทย์ พยาบาล กลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มที่ให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งพนักงานโรงแรม พนักงานขับรถรับส่งนักท่องเที่ยว และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทั้งหมด รวมถึงประชาชนชาวภูเก็ต กลุ่มเสี่ยง เป็นต้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวภูเก็ต ทยอยออกมาฉีดวัคซีนกันจำนวนมาก เป็นไปตามเป้าหมายและแผนการฉีดวัคซีนที่วางไว้

ทั้งนี้ เพราะทุกคนต้องการที่จะให้ภูเก็ตก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ภูเก็ตอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจซบเซามาเป็นเวลากว่า 1 ปี บางพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เช่น หาดป่าตอง หาดกะตะ-กะรน สภาพตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเมืองร้าง ไร้เงานักท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้ายังคงปิดเงียบ

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ระบุว่า หากภูเก็ตได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลตามแผนที่วางไว้ ในเดือน เม.ย. 200,000 โดส เดือน พ.ค. และ มิ.ย. เดือนละ 300,000 โดส เพื่อฉีดให้คนภูเก็ต 466,000 กว่าคน จากวัคซีนที่ขอไป 933,000 โดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนภูเก็ต จะทำให้ภูเก็ตสามารถเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อย่างมั่นใจ

และในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้ามาสนับสนุนการฉีดวัคซีนนั้นมีความพร้อมทั้งจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่วางแผนไว้ 16 ทีม กระจายไปยัง 5 จุดบริการ สามารถฉีดวัคซีนได้วันละ 4,000-5,000 คน และในเดือน พ.ค.นี้ จะขยายเป็น 20 ทีม และจุดบริการวัคซีนเป็น 9 จุด เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนวัคซีน และให้สามารถฉีดได้ทันตามกำหนดเวลาที่วางไว้

ส่วนความพร้อมในการรักษากรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้มีการขอความร่วมมือจากทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน จำนวน 9 แห่ง โดยมีเตียงสำรองไอซียู 20 เตียง มีห้องปลอดเชื้อ 40 เตียง มีเต็นท์สนามอีก 100 เตียงที่ ม.อ.ภูเก็ต

วัคซีนจำนวน 900,000 กว่าโดส ที่ภูเก็ตขอไปนั้น ใช้งบประมาณในการจัดซื้อ 279 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวที่เปิดเกาะภูเก็ตรับต่างชาติในเดือน ก.ค.นี้ ไม่ต่ำกว่า 84,000 ล้านบาท และหากชะลอออกไปจนถึงเดือน ต.ค.จะมีรายได้เข้ามาถึง 54,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นการลงทุนที่น้อยมาก เพียงแค่ 0.5% ของรายได้ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า การฉีดวัคซีนในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของคนภูเก็ตที่จะช่วยบ้านเกิดของตัวเอง และการฉีดวัคซีนในครั้งนี้เป็นสิ่งจำเป็น และเป็นการรวมพลังของคนภูเก็ตในการเดินหน้ากันต่อไป เพราะการที่เราจะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้นั้นจะต้องไม่มีการกักตัวเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าภูเก็ตเองต้องมีความพร้อม ความพร้อมตามทฤษฎี คือ คนภูเก็ตอย่างน้อยร้อยละ 70 จะต้องฉีดวัคซีน ซึ่งในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับคนภูเก็ตทุกคน และในส่วนของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมานั้น รัฐบาลของประเทศนั้นๆ จะต้องมั่นใจว่าคนของเขาเดินทางมาในพื้นที่ที่ปลอดภัย เมื่อภูเก็ตปลอดภัย ภูเก็ตมีภูมิคุ้มกัน คนภูเก็ตเกินร้อยละ 70 ได้รับวัคซีน เชื่อว่าใครก็อยากมา เพราะภูเก็ตมีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่สวยงามอยู่แล้ว

“มั่นใจเมื่อภูเก็ตเปิดเมืองโดยไม่กักตัว และคนภูเก็ตฉีดวัคซีนครบร้อยละ 70 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมาแน่นอน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศยุโรปและรัสเซีย รวมไปถึงจีนในบางมณฑล สิงคโปร์ ฮ่องกง และอีกหลายประเทศที่ได้ส่งสัญญาณถึงความต้องการมาภูเก็ต หากไม่ต้องกักตัว ซึ่งทาง ททท.ประเมินไว้ว่าหลังเปิดเมืองรับต่างชาติ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจะเข้าภูเก็ตไม่ต่ำกว่าเดือนละ 50,000 คน จะสร้างรายได้ให้ภูเก็ตในรอบ 6 เดือนของปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 84,000 ล้านบาท” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าว



ในขณะที่ทุกฝ่ายตั้งความหวังและมั่นใจว่า 1 ก.ค.นี้ ภูเก็ตจะได้เปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ก็เกิดขึ้น ภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ และการจัดปาร์ตี้ในสถานบันเทิง 3 แห่งในภูเก็ต จนตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุด เมื่อวันที่ 17 เม.ย.อยู่ที่ 192 คน แต่ภูเก็ตสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้ ไม่มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดสูง ไม่มีการปิดเมืองเหมือนที่ผ่านมา แต่ได้ยกระดับมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้นขึ้น เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการป้องกันการแพร่ระบาดกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่บอบช้ำมากว่าปีแล้ว และการแพร่ระบาดในระลอกนี้เหมือนหนึ่งเป็นการทดทดลองหรือทดสอบระบบความพร้อมของภูเก็ตในการรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เมื่อภูเก็ตเปิดเมืองต้อนรับชาวต่างชาติ ตามที่ได้กำหนดไว้ 1 ก.ค.2564 นี้


เกาะภูเก็ต...สวรรค์ของนักท่องเที่ยวโลก จะเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค.นี้ได้หรือไม่? ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเห็นความสำคัญของเกาะแห่งนี้ เกาะที่สร้างรายได้ปีละกว่า 4.7 แสนล้าน ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง ด้วยการจัดสรรวัคซีนให้ตามที่ร้องขอไปได้หรือไม่ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คนภูเก็ตจะรวมพลังออกมาฉีดวัคซีนให้ครบร้อยละ 70 ของประชากร เพื่อให้ภูเก็ตก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 พลิกฟื้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ



กำลังโหลดความคิดเห็น