xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.เดินหน้าจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาชายแดนใต้ หัวใจสำคัญสู่ความมั่นคง-มั่งคั่งอย่างแท้จริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

โดย.. ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล


การจัดทำร่าง "ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้๐ คือหัวใจสำคัญในการที่จะแก้ปัญหาในมิติของการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งงานในมิติของการพัฒนานั้นอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือที่จะเรียกกันสั้นๆ ว่า “ศอ.บต.” นั่นเอง

เพราะจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดความรุนแรงละลอกใหม่ หรือเรื่องของ "ไฟใต้" ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมานั้น ได้ทำให้งานด้านการพัฒนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วย จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความไม่สงบเป็นระยะๆ ขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จนกลายเป็นปัญหา "เรื้อรัง" ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข ความยากจน ว่างงาน เหลื่อมล้ำ จนทำให้คุณภาพชีวิต และเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ยังต่ำกว่าผู้คนในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ


แม้ว่าใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ก่อความไม่สงบจากสมาชิกขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็นจะลดน้อยลง และ ศอ.บต. ภายใต้การนำของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. จะได้ผลักดันแผนงาน โครงการต่างๆ ที่เป็นงานด้านการพัฒนาเดินไปข้างหน้าอย่างเป็นมรรคเป็นผล

ทั้งในเรื่องการลงทุนด้านอุตสาหกรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน ที่ส่งผลต่อคนในพื้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรง การส่งเสริมอาชีพเกษตรกรที่เป็นอาชีพของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ในการปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ เช่น การปลูกไผ่ ปลูกกาแฟ ปลูกโก้โก้ และอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือก นอกจากการทำสวนยางพารา และสวนผลไม้ รวมทั้งการให้คนในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน ตาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่ให้คนในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนได้


แต่ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่เพียงพอกับปัญหาเก่าที่ยังแก้ไม่จบ และมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ เช่น การว่างงาน การตกงานของคนในพื้นที่ ซึ่งเกิดจาก “โควิด-19” ที่ทำให้แรงงานไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย ต้องเดินทางกลับ “มาตุภูมิ” ก็กลายเป็นปัญหาหนึ่งที่ ศอ.บต. ต้อง “แบกรับ” และมีนโยบายในการช่วยเหลือ

ล่าสุด รัฐบาลมาเลเซียมีคำสั่งให้ผลักดันคนไทยในประเทศมาเลเซียออกจากประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2564 ซึ่งหมายความว่า แรงงานไทยที่ยังอยู่ในมาเลเซียจะต้องเดินทางกลับประเทศตามช่องทางสากล และส่วนหนึ่งคือช่องทางธรรมชาติ หรือการหลบหนีเข้าเมืองนั่นเอง ซึ่งแม้ว่าในการรับมือกับปัญหาแรงงานที่ถูกผลักดันให้กลับประเทศ จะมีหน่วยงานหลักรับผิดชอบ ตั้งแต่จังหวัด สาธารณสุข ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ และ ทหาร ที่รับผิดชอบแนวชายแดน แต่สุดท้าย ศอ.บต.คือ หน่วยงานที่ต้องบูรณาการ และต้องรับผิดชอบในเรื่องของคนตกงาน ว่างงาน ที่หาก “สะสม” ไว้โดยไม่แก้ไขก็จะเป็นเรื่องของคุณภาพชีวิต ที่หมายถึงความไม่มั่นคงต่อพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้


การมียุทธศาสตร์การพัฒนาที่ชัดเจนและถูกต้องคือสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ขณะนี้ ศอ.บต.อยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2564-2566 โดยมีการรับฟังความคิดเห็นขององค์กรต่างๆ และประชาชนอย่างต่อเนื่อง 12 ครั้งแล้ว เช่น ผู้แทนองค์กรต่างๆ นิสิตนักศึกษา กลุ่มสื่อมวลชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักการการ ผู้นำศาสนาทุกศาสนา ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ และจากคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมาจากภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพจำนวน 60 คน เพื่อแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นความหลากหลายที่เป็นประโยชน์ที่ ศอ.บต.จะนำมาปรับใช้เพื่อการจัดทำร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาของปี 2564-2566 ในครั้งนี้

สำหรับยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนา ศอ.บต.ได้ร่างประเด็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้ 7 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคง ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านศาสนา การศึกษา และการเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ด้านการสื่อสารสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ยุทธศาสตร์ทั้ง 7 ด้าน ที่มีการรับฟังความคิดเห็น และนำไปเป็นยุทธศาสตร์อย่างเป็นรูปแบบนั้น โดยหลักปฏิบัติ ศอ.บต.ได้เดินหน้า “ขับเคลื่อน” นโยบายไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนแล้ว ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ การค้าชายแดน การลงทุน ด้านการพัฒนาเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของคนในพื้นที่ เช่น การส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่แทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น การปลูกไผ่ เพื่อส่งขายให้แก่โรงงานไฟฟ้าชีวมวลและอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งวันนี้มีการขยายพื้นที่ปลูกไผ่ใน จ.ยะลาไปแล้ว 10,000 กว่าไร่ และจะขยายไปในพื้นที่ของจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งส่งเสริมให้ปลูกกาแฟ ปลูกโกโก้ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดและมีเกษตรกรเริ่มหันมาปลูกพืชทั้ง 2 ชนิดแล้วจำนวนมาก


แต่เพื่อการ "เติมเต็ม" ในยุทธศาสตร์ทั้ง 7 ด้านให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ วิถีชีวิต และอื่นๆ ศอ.บต.จึงได้จัดเวทีให้กลุ่มคนแต่ละกลุ่ม แต่ละสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าใจในบริบทต่างๆ ในพื้นที่ได้ดี เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เช่น ในเรื่องการศึกษา เรื่องของศาสนา เรื่องความเสมอภาคทางสังคม เรื่องการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบการบริหารจัดการของภาครัฐ รวมทั้งเรื่องการสื่อสารและการสร้างความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่ง ศอ.บต.เข้าใจดีว่า นโยบายเหล่านี้เป็นความจำเป็นต่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังเป็น จุดอ่อนที่ต้องมี “ยุทธศาสตร์” ที่ชัดเจนและต้องมีการนำไปปฏิบัติอย่างเป็นกระบวนการ จึงจะลดปัญหาและนำจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อไปสู่ความมั่นคง และมั่งคั่งอย่างแท้จริง

แม้แต่เรื่องของยาเสพติดที่ระบาดเป็นวงกว้างในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ ศอ.บต.ก็ต้องจัดทำยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เพื่อลดการระบาดและนำผู้เสพที่เข้าสู่กระบวนการบำบัด เมื่อกลับคืนสู่สังคมต้องมีวิธีการที่มาทำให้กลับมาเป็นผู้เสพอีก โดยต้องมีอาชีพและต้องให้สังคมยอมรับ เพราะหากแก้ประเด็นนี้ไม่ได้ การที่จะแก้ปัญหาของยาเสพติดก็จะล้มเหลว

สำหรับคนในพื้นที่ก็ได้แต่หวังว่า สถานการณ์การณ์การก่อเหตุที่ลดลง และการ “ขับเคลื่อน” งานด้านการพัฒนาของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม จะเป็นการนำความมั่นคงมาสู่ผู้คนในทุกสาขาอาชีพ ให้มีคุณภาพชีวิต มีความเท่าเทียมในสังคม “พหุวัฒนธรรม” ในภูมิภาคของจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ววัน


กำลังโหลดความคิดเห็น