นราธิวาส - เจ้าหน้าที่จับแรงงานชาวไทย 44 คน ลักลอบข้ามแดนที่แม่น้ำโก-ลก บริเวณใต้สะพานข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย เผยสาเหตุไร้หนังสือเดินทาง ก่อนส่งตัวเข้ากระบวนการคัดกรองตรวจเชื้อโควิด-19
เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าทำการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ลักลอบข้ามแม่น้ำโก-ลก บริเวณใต้สะพานข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 44 คน แยกเป็นชาว จ.ปัตตานี 30 คน ชาย 20 คน หญิง 10 คน ชาว จ.ยะลา 6 คน ชาย 4 คน หญิง 2 คน ชาว จ.นราธิวาส 6 คน ชาย 3 คน หญิง 3 คน ชาว จ.สงขลา ชาย 1 คน และชาว จ.นครศรีธรรมราช หญิง 1 คน
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวส่ง สภ.สุไหงโก-ลก เปรียบเทียบปรับ จัดทำประวัติตำหนิรูปพรรณ พร้อมทั้งส่งตัวเข้ากระบวนการคัดกรองเชื้อโควิด-19 ที่ศูนย์พักคอย เพื่อการส่งเข้ากระบวนการคัดกรองที่สนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งจะดำเนินการตามขั้นตอนตามมาตรการควบคุมโรค ในการส่ง Local Quarantine แต่ละจังหวัดภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มแรงงานไทยกลุ่มนี้ได้เดินทางมาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีอาชีพรับจ้างที่ร้านอาหาร โดยมีเถ้าแก่ร้านอาหารเป็นผู้ติดต่อนายหน้าในการเดินทางกลับประเทศ จะต้องเสียค่าโดยสารเป็นรถบัสจ้างเหมาคนละ 60 เหรียญ ออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเดินทางถึงชายแดนเวลา 13.30 น. ของวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ใช้เรือข้ามแม่น้ำโก-ลก มายังฝั่งไทยดังกล่าว สาเหตุที่ต้องลักลอบเพื่อต้องการกลับภูมิลำเนา และไม่มีหนังสือเดินทาง