ตรัง - ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิตมือยิงอดีตนักเรียน ม.4 ร.ร.เอกชนเมืองตรัง พร้อมให้ชดใช้ 2 ครอบครัว ด้านผู้เสียหายพอใจคำพิพากษา แต่หวั่นคดีสิ้นสุดแล้วได้รับการลดหย่อน ทำให้ติดคุกไม่กี่ปีก็จะออกมาก่อเหตุอีก
ที่ศาลจังหวัดตรัง ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้อ่านคำพิพากษาคดียืนตามที่ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตนายธีรยุทธ สมสู่ อายุ 52 ปี ชาว ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงนายธีรวัฒน์ บูรณ์ชะนะ อายุ 16 ปี หรือน้องนิว อดีตนักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองตรัง เสียชีวิต และพยายามฆ่านายรัชพล กลับจิตร อายุ 42 ปี และให้นายธีรยุทธ ชดเชยค่าเสียหายให้นายรัชพล 7 แสนบาท และครอบครัวน้องนิว 2.1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำพิพากษาตัดสินของศาลชั้นต้นได้พิจารณาตามคำให้การของหลายฝ่าย ทั้งผู้เสียหาย รวมทั้งพยานต่างๆ แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดจริง และเป็นการกระทำอย่างโหดเหี้ยมกับคนอื่นที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และยังเป็นเยาวชน มีครอบครัว และมีอนาคตที่ดี
หลังรับฟังคำพิพากษาแล้ว ผู้เสียหายและครอบครัวของทั้ง 2 คนต่างดีใจและพอใจคำตัดสินของศาลที่ให้ความเป็นธรรม โดยนายอนันต์ พ่อของน้องนิว กล่าวว่า พอใจคำตัดสินของศาลที่สั่งประหารชีวิตผู้ก่อเหตุยืนตามศาลชั้นต้น และสั่งชดใช้ ทราบจากศาลว่าทางฝ่ายจำเลยอาจจะยื่นฎีกา ซึ่งเป็นไปตามสิทธิ แม้จะเห็นชัดเจนแล้วว่า ศาลพิพากษาไปตามเหตุพยานหลักฐาน แต่แม้ว่าฝ่ายจำเลยจะยื่นฎีกา พวกตนก็จะสู้ต่อไป และเชื่อว่าจะยังคงเป็นฝ่ายชนะคดี เพราะลูกตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ
“เป็นห่วงเพียงว่า จำเลยอาจได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ เหมือนกับนักโทษหลายๆ คนที่ศาลตัดสินประหารชีวิต แล้วได้รับการลดหย่อนโทษในวาระต่างๆ สุดท้ายจะติดคุกไม่กี่ปีก็ออกมา จำเลยจะออกมาทำร้ายพยานคือ นายรัชพล ซึ่งรอดชีวิตมาเป็นพยานปากเอกได้” นายอนันต์ กล่าว
นายรัชพล กล่าวว่า พอใจในคำตัดสินของศาลที่สั่งประหารชีวิตยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ทั้งนี้ หากฝ่ายจำเลยยื่นฎีกาพวกตนจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เชื่อศาลจะตัดสินเช่นเดียวกัน แต่หากคดีสิ้นสุดเมื่อใด สิ่งที่เป็นห่วงคือ โทษประหารชีวิตจะไม่ได้รับการประหารจริง กลัวว่าจำเลยจะได้รับการลดหย่อนโทษออกมาข้างนอกแล้วไปทำกับคนอื่นอีก ส่วนตัวตอนนี้ก็ยังไม่กล้าไปไหน ต้องอยู่แต่กับบ้านรอจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เพราะยังกลัวความไม่ปลอดภัย ส่วนการคุ้มครองพยานตอนนี้ไม่มีแล้ว
“เจ้าหน้าที่ให้ผมเก็บหลักฐานไว้หากมีใครมาข่มขู่คุกคามอีก ซึ่งขณะนี้ก็มี เช่น การขับรถมาจอดหน้าบ้าน เวียนหน้าบ้าน รวมทั้งหน้าบ้านพี่สาว และมีเบอร์แปลกๆ โทร.เข้ามือถือ แต่ผมไม่รับ และหลักฐานยังไม่ชัด ซึ่งหากมีหลักฐานชัดจะยื่นขอรับการคุ้มครองพยานได้อีก” นายรัชพล กล่าว