xs
xsm
sm
md
lg

เกลี้ยงบัญชี! ชาวบ้านตรังร้องเงินฝากโควิด-19 สหกรณ์ปะเหลียนหาย คาดสูญกว่า 50 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาวบ้านตรังร้องสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน ทำเงินฝากประจำกอบกู้วิกฤตไวรัสโควิด-19 หายเกลี้ยงบัญชี ครบสัญญาแต่ไม่สามารถเบิกถอนเงินออกมาได้ คาดมียอดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

วันนี้ (8 เม.ย.) นายสุเทพ ขันธรักษวงศ์ พร้อมด้วย นางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 6/10 ถนนรักษ์จันทน์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนิติกรสหกรณ์จังหวัดตรัง ร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีเงินฝากกับสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด ที่หายไปจากบัญชีไม่สามารถเบิกถอนได้ จำนวน 2 บัญชี เป็นเงินรวมกว่า 2.7 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา นางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ ก็ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปะเหลียน แล้ว

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่สมาชิกได้ฝากเงินกับสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด จำนวนทั้งสิ้น 2 บัญชี คือ 1 โครงการเงินฝากประจำกอบกู้วิกฤตไวรัส COVID-19 ซึ่งมียอดเงินฝากที่ปรับ ณ วันที่ 5 เมษายน 2564 เท่ากับ 1,014,777.41 บาท และบัญชีที่ 2 คือ โครงการรอมทรัพย์ ดอกเบี้ย 4.5 % ต่อปี (1 สิงหาคม 2559-30 มิถุนายน 2564) ซึ่งมียอดเงินฝากที่ปรับสมุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เท่ากับ 1,662,560.90 บาท


ต่อมา บัญชีเงินฝากเล่มที่ 1 ครบกำหนดฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 นางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ จึงติดต่อไปที่สหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด ล่วงหน้า 1 วันว่ามีความประสงค์จะไปถอนเงินในวันที่ 1 เมษายน 2564 แต่เมื่อไปถึงที่สหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด และทางเจ้าหน้าที่แผนกการเงินคือ นายเสรี จันฝาก ได้แจ้งว่า ขณะนี้สหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด ได้ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินให้ถอนแม้แต่บาทเดียว

จากนั้นทั้งสองจึงขอพบผู้จัดการ คือ นายศักราช จำปา ซึ่งก็ได้แจ้งเช่นกันว่า ขณะนี้สหกรณ์การเกษตรปะเหลียน ขาดสภาพคล่อง และไม่มีเงินให้ถอนแม้แต่บาทเดียว แต่จะขอผ่อนชำระให้รายวัน และพอวันรุ่งขึ้น วันที่ 2 เมษายน นายสุเทพ ขันธรักษวงศ์ พร้อมด้วยนางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ ได้เดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรปะเหลียนอีกครั้ง เพื่อจะขอถอนเงินบางส่วนออกมาก่อน แต่ผู้จัดการไม่อยู่ แผนกการเงินก็ไม่อยู่ หรือไม่มีใครอยู่เลย จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ปะเหลียน และมาร้องเรียนกับสหกรณ์จังหวัดตรัง เพื่อที่จะให้เข้าไปตรวจสอบสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน และอยากได้เงินฝากคืนพร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งคิดว่าน่าจะมีสมาชิกอีกหลายรายที่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

จากนั้น นายสุเทพ ขันธรักษวงศ์ พร้อมด้วย นางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ ได้เดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรปะเหลียนเพื่อพูดคุยข้อตกลง โดยมีสมาชิกรายอื่นๆ เดินทางมาเพื่อต้องการเบิกถอนเงินด้วย แต่ก็ถอนเงินไม่ได้เช่นกัน หลังจากนั้น นายเอกพงษ์ ศรีสุด ประธานกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการสหกรณ์ปะเหลียน อีก 2 คน ได้ออกมาพูดจาไม่ให้ทำข่าว พร้อมข่มขู่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าว และผู้เสียหายที่นำผู้สื่อข่าวมาทำข่าวว่า ทำให้สหกรณ์ได้รับความเสียหาย โดยทางผู้สื่อข่าวเองพยายามสอบถามปัญหา และข้อมูลกับทางประธานสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดทั้งหมด พร้อมชี้หน้าและข่มขู่ตลอดเวลาว่าดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก และทำให้สหกรณ์เสียหาย


นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนสมาชิกอีกรายที่ฝากเงินตามโครงการนี้เช่นกัน บอกว่า เงินฝากเป็นของคุณแม่ มีเงินฝากอยู่ในบัญชีรวม 2 ล้านกว่าบาท และถอนออกมาแล้วบางส่วน ตอนนี้เงินยังคงเหลืออยู่ในบัญชีประมาณ 1.9 ล้านบาท โดยเริ่มถอนเงินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ประมาณครั้งละ 10,000 บาทบ้าง หรือ 2,000 บาทบ้าง แต่ต้องมาขอถอนเรื่อยๆ มารู้ปัญหาหลังจากที่เข้ามาถอนเงินเอง แต่ก็ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้ก็จะมาถอนอีก และเคยคุยกันหลายรอบแล้วว่าจะขอปิดบัญชี แต่ว่าไม่ได้ วันนี้ก็มาถอนแค่ 10,000 บาท ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน หวั่นเงินที่เหลือจะสูญทั้งหมด

ต่อมา นายสุเทพ ขันธรักษวงศ์ พร้อมด้วย นางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ กล่าวอีกครั้ง หลังจากที่ได้พูดคุยกับทาง นายเอกพงษ์ ศรีสุด ประธานกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน โดยทางสหกรณ์ได้ทำหนังสือสัญญาคืนเงินฝากพิเศษให้แก่ นางอรัญณี ขันธรักษวงศ์ จำนวนเงิน 1,625,682.41 บาท จำนวน 3 งวด คือ ครั้งที่ 1 ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 จ่ายคืน จำนวน 5 แสนบาท ครั้งที่ 2 วันที่ 24 มิถุนายน 2564 จำนวน 5 แสนบาท และครั้งที่ 3 วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 จำนวน 625,682.41 บาท

ส่วนบัญชีที่ 2 บัญชีเงินฝากออมทรัพย์โครงการโควิด-19 จำนวนเงิน 1,014,777.41 บาท จ่ายคืนวันทำสัญญา จำนวน 1 แสนบาท ยอดฝากที่เหลือ 914,777,41 บาท จ่ายคืนครั้งที่ 1 วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 จำนวน 3 แสนบาท ครั้งที่ 2 วันที่ 18 มิถุนายน 2564 จำนวน 3 แสนบาท และครั้งที่ 3 วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 จำนวน 341,777.41 บาท ซึ่งหากมีการผิดสัญญางวดหนึ่งงวดใด พวกตนก็จะดำเนินการฟ้องดำเนินคดีอาญาทันที


สำหรับโครงการเงินฝากประจำกอบกู้วิกฤตไวรัส COVID-19 เป็นโครงการที่สหกรณ์การเกษตรปะเหลียนผุดโครงการขึ้นมา เพื่อระดมเงินทุนจากประชาชนฝากเงินกับสหกรณ์ โดยให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เป็นเวลา 1 ปี ทำให้ประชาชนที่พอมีเงินเก็บนำเงินไปฝากเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังจะได้ดอกเบี้ยซึ่งสูงกว่าสถาบันการเงิน

โดยสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน นำเงินที่ได้ไปลงทุนทำกิจการต่างๆ เพื่อนำรายได้มาเป็นเงินดอกเบี้ยคืนให้แก่สมาชิกผู้ฝากเงิน แต่เมื่อครบกำหนดสัญญาปี เมื่อประชาชนมาขอเบิกถอนเงินคืน ทำให้ทราบว่าเงินหายไปจากบัญชีทั้งหมด ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะทางผู้รับผิดชอบสหกรณ์ดังกล่าวยังไม่ยอมให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น