นครศรีธรรมราช - “วิทยา แก้วภราดัย” อดีตแกนนำ กปปส.อัด “นายกฯ บิ๊กตู่” เข้าสู่อำนาจ 7 ปีปฏิรูปประเทศไม่คืบ จี้ใจดำแต่งตัว “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมนั่ง ผบ.ตร. สัญญาณปฏิรูปตำรวจล้มเหลว จับตาซื้อขายตำแหน่ง
วันนี้ (8 เม.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองว่า อีกไม่กี่วันจะครบรอบ 7 ปี ของการรัฐประหาร โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับแต่ปี 2557 ทั้งเป็นหัวหน้า คสช. ทั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนทั้งประเทศฝากความหวังไว้ โดยเฉพาะการติดตามในคดีการทุจริตของรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งยอมรับว่าได้ผล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว สามารถเอาคนผิดเข้าคุก แม้จะเปิดโอกาสให้คนบางคนเดินทางหลบหนีไปต่างประเทศได้ 7 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ทำได้ดีในหลายเรื่อง โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19
สิ่งหนึ่งที่จำเป็น และเรียกร้องให้ดำเนินการ คือการปฏิรูปประเทศ หลักๆ 2 ประเด็น คือการปฏิรูปการเมือง ที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่น อบจ. เทศบาล เมื่อมาถึงวันนี้ต้องบอกว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครกล้าพูดว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมาไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ที่สำคัญคือรัฐบาลปล่อยให้ กกต.รับมือเพียงลำพัง ไม่ได้ขยับที่จะป้องกันการทุจริต ส่งเสริมให้เกิดการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม สุดท้ายเราเห็นนักเลือกตั้งอาชีพที่รู้ทางหลบทางหลีก เงินสะพัดอย่างรุนแรงในการเลือกตั้ง สุดท้ายได้สภาที่ฝากความหวังไม่ได้ คนที่เป็นรัฐบาลหลงระเริงกับตำแหน่ง คนที่เป็นฝ่ายค้านก็หลงกับสิ่งที่อยากทำ ไม่ได้ควบคุมตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็น และอยากขอร้องว่าการเลือกตั้ง อบต.ที่จะถึงนี้ รัฐบาลควรดำเนินการให้เป็นไปอย่างสุจริต และเที่ยงธรรม ถ้าเห็นการซื้อเสียงเมื่อไหร่ก็จะเห็นการถอนทุนกลับมา
นายวิทยา แก้วภราดัย ยังกล่าวถึงการปฏิรูประบบราชการ วันที่การเมืองเหลวแหลก การทุจริตคอร์รัปชันโครงการใหญ่เริ่มเกิดขึ้น ใน 7 ปีที่ผ่านมาตัวเลขฟ้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ประสบผลสำเร็จในการปราบปรามทุจริต แต่สิ่งที่ต้องชื่นชม คือ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการยอมรับว่าคือคนที่สุจริต ไม่เคยมีใครตำหนิว่าทุจริต แต่สิ่งที่น่ากลัวคือคนรอบข้าง องคาพยพมีการทุจริตที่รุนแรงขึ้น เพราะฉะนั้นการปฏิรูปจึงล้มเหลว ในเรื่องการปฏิรูปประเทศ มีเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องเสร็จใน 1 ปี วันนี้รัฐธรรมนูญใช้เกือบ 4 ปี การปฏิรูปตำรวจไม่มีความคืบหน้า ส่วนของผมนั้นต้องคดีหมิ่นประมาท จนวันนี้ยังติดตามคดีไม่ได้
“สิ่งที่เป็นคำตอบ คือการแต่งตั้งคนที่เตรียมเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโผล่ขึ้นมาอีก ถ้าการปฏิรูปตำรวจถือว่าประสบความสำเร็จ วันที่เอา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล มาเป็นที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมคิดว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง”
นายวิทยา ยังเรียกร้องถึงการปฏิรูปตำรวจว่า อย่าเล่นกันแบบพลิกไปพลิกมา สุดท้ายเรื่องที่เข้าสภาคาดหวังอะไรไม่ได้ ไม่ได้เดินตามแนวทางที่ควรจะเป็น คณะทำงานที่เคยทำรายงานกันไว้ไม่เคยถูกหยิบยกมาใช้เลย หลังจากนี้เตรียมที่จะต้องพบกับฤดูกาลโยกย้ายที่มีการซื้อขายตำแหน่งกันอย่างรุนแรงที่สุด สุดท้ายของการซื้อขายเสียงคือการเข้าไปโกง สุดท้ายของการซื้อขายตำแหน่งคือการเข้าไปใช้อำนาจทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าถึงขนาดนี้การปฏิรูปล้มเหลว ไม่สามารถพาบ้านเมืองไปข้างหน้าได้เลย