ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทัพเรือภาคที่ 3 ลงสำรวจซากเรือ "คิงส์ครุยเซอร์" ที่ชนหินโสโครกใกล้หินมุสัง จมเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว พบมีฝูงปลาและปะการังสวยงาม สุดยอดซากเรือจมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากเหตุการณ์เรือคิงส์ครุยเซอร์ที่วิ่งระหว่างเกาะภูเก็ตและเกาะพีพี ได้ชนหินโสโครกใกล้กับหินมุสัง และจมลงไปในที่สุดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2540 โดยที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ซากเรือดังกล่าวได้กลายเป็นจุดดำน้ำที่มีนักดำน้ำทั่วโลกได้ให้ความสนใจและเป็นหนึ่งในสุดยอดซากเรือจมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเรือได้จมใต้ทะเลอันดามัน ที่ความลึกประมาณ 30 ฟุต จนเวลาผ่านไป 24 ปี ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ของฝูงปลาสิงโต ปลาสาก และปลาอื่นๆ อีกมากมายที่มาอาศัยอยู่บริเวณแห่งนี้
ด้วยสีสันที่งดงามของน้ำทะเล และรายล้อมไปด้วยปะการังหลากสี ที่นี่จึงเป็นที่ที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด และที่พลาดไม่ได้ คือการที่มีโอกาสที่จะได้ว่ายน้ำพร้อมฉลามวาฬและกระเบนราหูอีกด้วย
นับว่าท้องทะเลไทยของเรายังคงสวยงามและควรค่าแก่การอนุรักษ์ทรัพยากรเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานของเรา และนักท่องเที่ยวดำน้ำได้ดูได้ชมกันตราบนานเท่านาน
สถานที่ตั้ง อยู่ทางทิศตะวันออกของภูเก็ต หรือเส้นทางระหว่างภูเก็ตและเกาะพีพี