สุราษฎร์ธานี - คดีฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก แรงงานต่างด้าวชาวลาว ในฟาร์มเลี้ยงหมู ผู้การสุราษฎร์ฯ ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่ล่าตัวคนร้าย คาดปมเกิดจากความแค้นส่วนตัว ในขณะที่นายจ้างยังทำใจไม่ได้ ระบุผู้ก่อเหตุโหดร้ายผิดมนุษย์
จากกรณีเกิดเหตุฆ่ากันตาย 3 ศพ ผู้ตายเป็น พ่อ แม่ และลูกชายวัย 6 ขวบ ที่บ้านพักคนงานแรงงานต่างด้าวชาวลาว ในสง่าพรฟาร์มหมู เลขที่ 70/1 ม.12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (2 เม.ย.) ความคืบหน้าล่าสุด เช้าวันนี้ (2 เม.ย.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้น พบว่าสถานที่เกิดเหตุมีทางเข้าออกได้หลายทาง และไม่มีกล้องวงจรปิดเนื่องจากกำลังติดตั้ง
ด้าน นายสง่าพร พรหมทองนุ่น อายุ 59 ปี เจ้าของฟาร์มเปิดเผยว่า ตนกลับจากงานศพแม่ยาย เมื่อเวลา 02.00 น.เมื่อเข้ามาถึงพบว่าปั๊มน้ำทำงานตลอดเวลา จึงเดินไปหาจุดรอยรั่ว เมื่อเดินไปถึงบ้านพักคนงานพบว่าไฟฟ้าเปิดอยู่ มีเสียงทีวีดัง ประตูห้องไม่ปิด จึงเดินเข้าไปดูพบว่า ทั้งหมดถูกคนร้ายฆ่าตายแล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งนายอนันต์ ไทยพัฒน์ กำนัน ต.ช้างขวา และให้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นายสง่าพร ยังบอกอีกว่า เมื่อประมาณ 21.00 น.ได้โทรศัพท์มาหาลูกน้องหลายครั้ง แต่ไม่มีการรับสาย จึงคาดว่าเหตุน่าจะเกิดมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบเพราะลูกน้องมาอยู่ทั้งครอบครัวประมาณ 2 ปีเศษ และเป็นคนดีตั้งใจทำงานจนสามารถทำงานแทนตนได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเมื่อว่างก็จะไปหานายจ๋อย ที่เป็นพี่ชายที่ทำงานฟาร์มเลี้ยงหมูของตนอีกแห่งหนึ่ง และไม่ไปคลุกคลีกับใคร ซึ่งตนและภรรยาก็รักเหมือนลูก
ส่วนด้านคดี พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจสุราษฎร์ธานี สั่งการให้ พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่สมทบกับชุดสืบ สภ.กาญจนดิษฐ์ ไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ทักษิน ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำ นายสง่าพร เจ้าของฟาร์มและนายจ๋อย พี่ชายผู้ตายไป 2 ปาก ทางตำรวจมุ่งเป้าไปยังประเด็นความโกรธแค้นส่วนตัว แต่ประเด็นต่างๆ ยังไม่ตัดทิ้ง ขอเวลาให้ตำรวจทำงานระยะหนึ่ง ซึ่งคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้ก่อเหตุลงมือโหดเหี้ยมฆ่ายกครัว แม้แต่เด็กอายุไม่ถึง 5 ขวบก็ไม่เว้น ส่วนจำนวนคนร้ายยังไม่ชัดเจนว่าลงมือก่อเหตุกี่คน
