xs
xsm
sm
md
lg

คนขับเรือชน จนท.ศรชล.เจ็บสาหัสเข้ามอบตัวแล้ว อ้างถูกส่องไฟเข้าหน้ามองไม่เห็นทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช - พบผู้อ้างเป็น “คนขับเรือ” ชนเจ้าหน้าที่ ศรชล.เจ็บสาหัส 5 นาย ดอดเข้ามอบตัวแล้ว อ้างถูกส่องไฟเข้าหน้าจนมองไม่เห็นทาง ขณะที่นายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ลงพื้นที่ติดตามคดี เผยยังไม่มีการสอบสวน จนท.ผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว

จากกรณีเหตุการณ์แก๊งเรือคราดหอยเถื่อนผิดกฎหมาย ในอ่าวปากนคร ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อเหตุใช้เรือหางยาวขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนเรือเจ้าหน้า ศรชล.ภาค 2 และเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัสถึง 5 ราย โดยทั้งหมดถูกรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช ตามภาพที่เจ้าหน้าที่บันทึกไว้ได้ในขณะเกิดเหตุ

ซึ่งต่อมา นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้ดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุในข้อหาหนัก คือ 1.ใช้เครื่องมือคราดหอยลากในเขตชายฝั่งโดยผิดกฎหมาย 2.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และ 3.พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

จากคลิปในขณะเกิดเหตุกลายเป็นหลักฐานสำคัญ โดยเป็นคลิปเจ้าหน้าที่บันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน ขณะที่เรือเจตนาพุ่งเข้าชน แม้เจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือนแล้ว และได้กลายเป็นหลักฐานสำคัญ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้นำคลิปภาพมาตรวจสอบอย่างละเอียด และหยุดภาพให้เป็นภาพนิ่ง ทำให้เห็นรูปพรรณเรือที่ถูกทาด้วยสีฟ้าน้ำเงิน รวมทั้งเครื่องหมายประจำเรือ มีอักษร “ป” อยู่บริเวณหัวเรืออย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้ายึดเรือลำที่ก่อเหตุ โดยเจ้าของเรือได้นำไปหลบซ่อนอยู่ในลำคลองย่อยที่เรียกว่าคลองบางตาจันทร์ ต.ปากนคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าพื้นที่ และยึดเรือลำที่ก่อเหตุไว้ โดยมีหลักฐานร่องรอยการชนอย่างชัดเจน ขณะที่ยังมีการทาสีอำพรางไว้อีกชั้น แต่ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่


ล่าสุด นายณัฎฐพล พราหมพูน ปลัดอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้นำตัว นายชัยยะ มาศจิต อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/7 หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า นายชัยยะ เป็นคนขับเรือชนเจ้าหน้าที่ได้ประสานมาเพื่อขอมอบตัว และยอมรับว่าลักลอบใช้เครื่องมือคราดหอยที่ผิดกฎหมายจริง และคืนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงไปเพื่อจับกุม และอ้างว่าขณะที่กำลังขับเรือ ซึ่งมีความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่นั้น เรือของเจ้าหน้าที่ได้ส่องไฟเข้าหน้า ทำให้มองไม่เห็นว่ามีเรือขวางอยู่ และไม่สามารถหยุดเรือได้ทันจึงพุ่งชน

“เมื่อรู้ว่าชนแล้วก็ตกใจ และขับหลบหนีเข้าบ้านไป และเมื่อเห็นข่าวยอมรับว่ากลัว และไม่กล้าจะออกมามอบตัว เพราะไม่แน่ใจในความปลอดภัย จึงได้ประสานกับทางอำเภอ และขอมอบตัว ซึ่งตนอยากจะบอกกับเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บทุกนายว่า ตนขอโทษ ตนไม่ได้ตั้งใจ” นายชัยยะ กล่าว

ขณะที่ พล.ร.ต.สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและกฎหมายศรชล ได้เดินทางลงพื้นที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยการติดตามความคืบหน้าในเรื่องของคดีในครั้งนี้มี พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย สว.(สอบสวน) และ พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ รอง ผกก.(สอบสวน) รายงานถึงความคืบหน้าของคดีว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจเก็บดีเอ็นเอที่เรือของกลางไว้ เพื่อตรวจเปรียบเทียบกับผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจเปรียบเทียบเรือหางยาวของกลางกับเรือของเจ้าหน้าที่ที่ถูกชน เพื่อพิสูจน์ร่องรอยการชน ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ


และขณะนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนเจ้าหน้าที่ผู้เสียหาย เนื่องจากจนถึงขณะนี้ได้รับรายงานว่า ยังไม่มีการสอบสวนนายใดเลย พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ศรชล.ให้กำชับติดตามเร่งรัดคดีนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในพื้นที่อื่นๆ โดยจะต้องมีการจับกุมดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในคืนเกิดเหตุ โดยจะมีการดำเนินการที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อไม่ให้มีการเอาเป็นเยี่ยงอย่างในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ โดยต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือนักการเมืองหนุนหลังอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ นายนิรัน สินธุพาชี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในความผิดฐานได้ร่วมกันใช้เครื่องมือคราดหอยประกอบเรือกล ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงพาณิชย์ทำการประมงโดยไม่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ร่วมกันลักลอบทำการประมงโดยใช้เครื่องมือคราดหอยประกอบเรือกลในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง ได้ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ โดยมีพยานยืนยันว่าผู้ต้องหาได้เป็นผู้ขับเรือขณะเกิดเหตุ ส่วนผู้ที่อยู่ในเรือของผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งจะสืบสวนติดตามดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นายวิรชัช เจะเหล็ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางสมาคมจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 14 วัน ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเรือประมงพื้นบ้าน และใช้เครื่องมือเชิงพาณิชย์ในการทำผิดกฎหมาย และทำร้ายเจ้าหน้าที่ หากยังไม่สามารถจับกุมได้จะมีการมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดเพื่อกดดันการทำงาน เพราะถือว่าคดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประมงพื้นบ้าน จ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างมาก ทั้งที่ผู้กระทำผิดมีแค่กลุ่มเล็กๆ เพียงไม่กี่คน




กำลังโหลดความคิดเห็น