นครศรีธรรมราช - “ดร.โจ” กณพ เกตุชาติ สร้างตำนานการเมืองท้องถิ่น ชนะขาดนั่งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช พาสมาชิก 24 คนเข้าสภายกทีม ประกาศชัยชนะพร้อมทำหน้าที่ทันที
วันนี้ (29 มี.ค.) หลังจากการนับคะแนนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ซึ่ง 1 ใน 33 เทศบาลขนาดใหญ่ของประเทศไทย ที่ถูกจับตามองจากหลายฝ่ายรวมทั้งขั้วการเมืองที่เชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายกณพ เกตุชาติ ผู้สมัครหมายเลข 4 หัวหน้าทีมสมนึกงานคือชีวิต ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้หลังจากมีการรวบรวมผลการนับคะแนนเสร็จสิ้น
โดยสามารถกวาดคะแนนการเลือกตั้งไปในส่วนของตำแหน่งนายกเทศมนตรีได้ถึง 25,277 คะแนน ทิ้งห่าง นายวิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล ผู้สมัครหมายเลข 1 จากทีมนครธรรมาภิบาลประชารัฐ ที่ได้คะแนน 10,864 คะแนน ส่วนผู้สมัครหมายเลข 2 นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ทีมพลังเมืองนคร ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.เขต 1 นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นน้องชายของ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เข้ามาเป็นลำดับที่ 3 ได้คะแนนเพียง 9,817 คะแนน
โดยกลางดึกที่สำนักงานอำนวยการเลือกตั้งของทีมสมนึกงานคือชีวิต อาคาร RAT ประชาชนจำนวนมากได้ไปรวมตัวแสดงความยินดีกับนายกณพ เกตุชาติ หรือ ดร.โจ อย่างคับคั่ง ขณะที่ นายสมนึก เกตุชาติ อดีตตำนานการเมืองท้องถิ่นของนครศรีธรรมราช ที่เคยครองตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราชยาวนานกว่า 30 ปี บิดา และ ดร.สายสวาท เกตุชาติ บิดาและมารดาของ นายกณพ เกตุชาติ ได้มาแสดงความยินดีบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น
นายกณพ เกตุชาติ ว่าที่นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยความดีใจต่อหน้าผู้สนับสนุนจำนวนมากว่า ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ ช่วงเย็นที่ผ่านมาได้ตระเวนไปหลายหน่วยเลือกตั้งหลังจากปิดหีบ และหลังจากที่มีการนับคะแนนแล้วมั่นใจว่าชนะการเลือกตั้งแน่นอน และที่สำคัญมาจนถึงขณะนี้ได้มีผลคะแนนที่ส่งเข้ามาจนมั่นใจแล้วว่าสมาชิกสภาเทศบาลที่เป็นลูกทีมทั้ง 24 คนได้รับการเลือกตั้งยกทีมทั้ง 24 คนอีกด้วย
นายกณพ ยังยืนยันว่า หลังจากนี้พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ โดยในวันพรุ่งนี้แม้ว่า กกต.จะยังไม่ได้รับรองผลการเลือกตั้งแต่จะเตรียมที่จะทำงานทันที เรื่องแรกที่จะดำเนินการคือการติดตามแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำประปาที่จะต้องสำรองน้ำให้ชาวเทศบาลนครนครศรีธรรมราชให้มีความมั่นคง
สำหรับข้อมูลของการเลือกตั้งเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 74,268 คน มาใช้สิทธิจำนวน 49,355 คน คิดเป็นร้อยละ 66.46 มีบัตรดี 47,157 ใบ คิดเป็นร้อยละ 95.55 บัตรเสียจำนวน 1,118 ใบ คิดเป็นร้อยละ 2.27 ไม่เลือกผู้ใด 1,080 ใบคิดเป็นร้อยละ 2.19
