xs
xsm
sm
md
lg

วอนหยุดซื้อ-หยุดขายปูเสฉวน หลังพบใกล้สูญพันธุ์ ราคาพุ่ง 80-2,500 บาทต่อตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - วอนหยุดจับปูเสฉวนขาย ชมรมจิตอาสา Healthy Reefs Club จัดโครงการไถ่ชีวิตปูเสฉวนบกกลับบ้าน นำปูเสฉวนเกือบ 3,000 ตัว ปล่อยคืนธรรมชาติที่เกาะราชาใหญ่ เผยสถานการณ์ยังวิกฤต จับขายราคาเฉลี่ย 80-2,500 บาทต่อตัว


นายครรชิต คลิ้งขลิบ ผู้ประสานงานชมรมจิตอาสา Healthy Reefs Club เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ปูเสฉวนถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากพบว่ายังมีการลักลอบเก็บจากธรรมชาติเพื่อนำไปขายให้กลุ่มผู้เลี้ยงซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ส่งผลให้ปูเสฉวนบางชนิดในธรรมชาติเริ่มหายากและมีราคาสูง โดยราคาเฉลี่ยที่จำหน่ายกันอยู่ที่ตัวละ 80-2,500 บาท ตามชนิดและขนาด และจากข้อมูลพบว่า ในพื้นที่ภาคใต้มีกลุ่มผู้ลักลอบเก็บส่งจำหน่ายอยู่ที่ จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่


ดังนั้น เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ปูเสฉวนให้อยู่คู่กับธรรมชาติ ทางชมรมชมรมจิตอาสา Healthy Reefs Club ได้ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สมาคมกีฬาสกีและสโนบอร์ดแห่งประเทศไทย สมาคมสยามไลฟ์เซฟวิ่ง บ้านราชารีสอร์ท ร้าน M car care ภูเก็ต โรงกลึงสแตนดาร์ด จ.นครศรีธรรมราช และชาวบ้านอำเภอปากพนัง ร้าน One Impression Artstudio จ.เพชรบุรี จัดโครงการ “คืนบ้านให้ปูเสฉวนบก” และ “พาน้องปูเสฉวนบกกลับบ้าน” เพื่อสร้างจิตสำนึกและรณรงค์ให้ความรู้แก่ผู้สนใจและเยาวชนไทย


โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้นำปูเสฉวนบก 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ก้ามแถวฟัน ตากลม ไลล่า ก้ามม่วง จำนวนเกือบ 3,000 ตัว ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่อ่าวขอนแค เกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต พร้อมนำเปลือกหอยธรรมชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนเป็นบ้านให้แก่ปูเสฉวนตามธรรมชาติอีกจำนวนมาก


นายครรชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ปูเกือบทุกตัวที่นำมาปล่อยได้มีการใช้สีแต้มทำตำหนิเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจในภายหลัง ส่วนขั้นตอนก่อนการปล่อยปูเสฉวนนั้น ได้ทำการพักปูในพื้นที่ปล่อยเพื่อให้ปูสัมผัสธรรมชาติ ก่อนทำการอาบน้ำให้ปูสัมผัสน้ำทะเล ก่อนทำการปล่อยลงบริเวณริมชายหาด พร้อมสังเกตพฤติกรรม ซึ่งจากการสังเกตพบว่าปูส่วนใหญ่ปรับตัวได้และมีการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้ดี แต่ก็มีบางตัวที่ปรับตัวได้ช้า มีการหลงทิศทาง เนื่องจากถูกนำไปเลี้ยงในระบบปิดเป็นเวลานาน และจากการออกสำรวจพบว่าบางส่วนเริ่มออกหากิน และจับกลุ่มอยู่ตามชายหาดเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ชมรมจิตอาสา Healthy Reefs Club ได้เริ่มโครงการอนุรักษ์ปูเสฉวนบก มาตั้งแต่ปี 2558 ต่อมา มีหลายภาคส่วนเล็งเห็นความสำคัญและเข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการมากขึ้น และพยายามติดต่อประสานงานกับแหล่งขายและกลุ่มผู้เลี้ยงบางส่วน เพื่อขอไถ่ชีวิต และขอสนับสนุนคืน ซึ่งมีผู้เลี้ยงที่ประสงค์ส่งมอบคืนให้ปล่อยสู่ธรรมชาติจำนวนมาก


แม้ปัจจุบันจะไม่มีกฎหมายที่คุ้มครองปูเสฉวนเหล่านี้ (มีเพียงการคุ้มครองในพื้นที่อุทยานฯ) แต่ทางชมรมฯ และหลายภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนได้พยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม ไม่ให้ปูเสฉวนเหล่านี้สูญหายไป ขณะเดียวกัน ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้เห็นความสำคัญของปูเสฉวนบก ขอความร่วมมือให้เลิกเก็บเปลือกหอยหน้าชายหาดซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปูเสฉวน เลี่ยงการจับหรือซื้อขายทั้งเปลือกหอยและปูเสฉวนบก รวมถึงเปิดช่องทางรับปูเสฉวนบกที่เลี้ยงอยู่หรือพบเจอทั่วประเทศไทยกลับสู่ทะเลไทย และรับบริจาคเปลือกหอย เพื่อนำมาเป็นบ้านให้ปูเสฉวน ซึ่งขณะนี้เริ่มมีเสียงสะท้อนกลับมามากขึ้น มีภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุน ทั้งการรวบรวม การขนส่ง และร่วมสนับสนุนกิจกรรม


"จึงอยากขอความมือประชาชนที่อยากมีส่วนร่วม นอกจากจะช่วยงดการจับ เก็บ ซื้อ ขาย ปูเสฉวนแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือโครงการด้วยการช่วยบริจาคเปลือกหอยชนิดหอยฝาเดียวทั้งหอยน้ำจืด หรือน้ำเค็ม เพื่อนำมาเป็นบ้านให้ปูเสฉวน โดยสามารถติดต่อมาที่เฟซบุ๊กชมรมจิตอาสา “Healthy Reefs Club” และเร็วๆ นี้ทางชมรมเองจะร่วมกันผลักดันให้อ่าวขอนแค เกาะราชาใหญ่ เป็นแหล่งอนุรักษ์และเรียนรู้ปูเสฉวน เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาดูงานเพื่อการอนุรักษ์ต่อไป" นายครรชิต กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น