ตรัง - พบ “ซากพะยูน” วัยรุ่นยาวกว่า 2 เมตร หนักประมาณ 150 กก. ลอยตายบริเวณแหลมทวด เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เนื่องจากสภาพซากเน่าเปื่อย แต่อวัยวะต่างๆ ยังอยู่ครบ
นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง ได้ช่วยกันนำ “ซากพะยูน” สัตว์ป่าอนุรักษ์ชื่อดัง ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านพบลอยตายอยู่ที่บริเวณแหลมทวด บ้านบาตูปูเตะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานที่ สภ.กันตัง
โดยพบว่าเป็นพะยูนเพศผู้ อายุไม่ถึง 20 ปี หรือเป็นช่วงวัยรุ่น ขนาดความยาว 2.28 เมตร รอบลำตัว 176 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 150-170 กิโลกรัม เบื้องต้นพบเขี้ยวยังอยู่ครบ มีรอยเขี้ยวพะยูนด้วยกันตามลำตัว และมีร่องรอยฉลามกัดกินที่บริเวณโคนหางเป็นแผลฉกรรจ์จนเกือบขาด และส่วนของครีบหางก็ถูกกัดหายไป บริเวณลำตัวมีร่องรอยขีดข่วน และรอยครูดเป็นทางยาว เชื่อว่าเกิดจากรอยเขี้ยวของพะยูนด้วยกันที่เกิดขึ้นหลังจากตายแล้ว ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีสภาพซากเน่าเปื่อย คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ตรัง ให้มาตรวจสอบ และนำซากพะยูนตัวดังกล่าวไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป
นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง กล่าวว่า พะยูนตัวนี้ถือเป็นตัวแรกที่พบลอยตายในทะเลตรังปี 2564 ยังคาดคะเนไม่ได้ว่าตายเพราะอะไร แต่เบื้องต้นพบว่าไม่มีการถูกทำร้าย และมีเขี้ยวพะยูนครบสมบูรณ์ ในส่วนร่องรอยของฉลามกัดแทะ คาดว่าน่าจะเกิดหลังจากที่พะยูนตายแล้ว และเป็นการบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลตรัง ที่มีทั้งฉลาม เต่า โลมา พะยูน ตามวัฏจักรของสัตว์ทะเล ส่วนทิศทางในเรื่องของพะยูนดีขึ้น อัตราการเกิดดี และพบพะยูนมีบ่อยขึ้น ซึ่งการบินสำรวจปีล่าสุดมีอัตราการเกิดพะยูนที่สูงขึ้น รวมทั้งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้มีพะยูนในทะเลตรังไม่น่าจะต่ำกว่า 250 ตัวแล้ว
สำหรับหญ้าทะเลสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เนื่องจากว่าพื้นที่หญ้าทะเลมีทั้งหมดประมาณ 16,000 ไร่ แต่มีหญ้าทะเลเสียหายไปประมาณ 500-1,000 ไร่ ถือเป็นจำนวนที่ไม่สูง ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่มาทำการวิเคราะห์วิจัยเรื่องหญ้าทะเลแล้ว และพบว่าหญ้าทะเลบางส่วนเริ่มมีการฟื้นตัว