กระบี่ - จับชาวพม่า แฝงตัวเป็นแรงงาน แอบค้ายาเสพติด ยึดไอซ์ 590 กรัม ยาบ้า 33,817 เม็ด รับทำมานานกว่า 6 ปี ขนมาทางรถทัวร์ซุกในหัวหอม และกระเทียมหลบสายตาเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (23 มี ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังเก่า นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.อ.ณัฐวัฒน์ นุ่นชูผล หัวหน้าสำนักข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด พ.ต.ท.ก้องภพ โพธิ์แสน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 จังหวัดกระบี่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวพม่า ซึ่งพบว่ามีพฤติกรรมลักลอบทำมานานกว่า 6 ปี โดยนำมาเสพติดมาจากจังหวัดเชียงใหม่ ขนส่งมาทางรถโดยสาร และแอบซุกซ่อนในหัวหอมและกระเทียม
ร.ต.อ.ณรงค์ อ่อนทอง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย ร.ต.อ.กรณ์นาวัน เกตุทอง รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว รองหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ สืบทราบว่าที่บ้านเลขที่ 21 ถนนวัชระ ซอย 10 หมู่ที่ 3 บ้านคลองจิหลาด ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ มีการลักลอบค้ายาเสพติดและเป็นเอเยนต์รายใหญ่ของขบวนการค้ายาเสพติดชาวพม้า จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น จับกุมตัวบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว สามารถจับกุมตัวนายสามารถ ชายกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 1 บ้านช่องพลี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วยนายยันไนโซ่ อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า และ นายปายปายโซ อายุ 30 ปีสัญชาติพม่า พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 590 กรัม ยาบ้า จำนวน 33,817 เม็ด
จากการสอบสวนปากคำในเบื้องต้น บุคคลทั้งสามให้การรับสารภาพว่า มีนายซูก้า สัญชาติชาวพม่า เป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อนำยาเสพติดมาซุกซ่อนก่อนนำไปส่งขายในพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่ และมนพื้นที่จังหวัดพังงา โดยนายยันไนโซ่ และนายปายปายโซ จะเดินทางไปรับยาเสพติดจากนายซูก้า ที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นจะนำยาเสพติดซุกซ่อนในกระสอบหัวหอมใหญ่และประสอบกระเทียมมากับรถทัวร์ประจำทางจากเชียงใหม่มากรุงเทพมหานคร และต่อรถทัวร์จากกรุงเทพมหานครมาจังหวัดกระบี่ และ จากกรุงเทพมหานครมายังจังหวัดพังงา แล้วนำมาเก็บเพื่อรอส่งให้แก่นายสามารถ ชายกุล เพื่อนำส่งให้ลูกค้าต่อไป โดยทั้ง 3 คน ได้ค่าขนส่งและค่าส่งยาเสพติดครั้งละ 5 หมื่นบาท
นายซูก้า ชาวพม้า เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่โดยผิดกฎหมายกว่า 6 ปี จะเดินทางระหว่างจังหวัดกระบี่กับจังหวัดเชียงใหม่เดือนละหลายครั้ง ซึ่งได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวข้างต้นเป็นสถานที่พักยาเสพติด โดยมีสมุนเป็นชาวพม่า 2 คนเป็นผู้เฝ้า ซึ่งเข้ามาอาศัยเป็นแรงงานขนส่งของในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ เข้าขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งลูกน้องนายซูก้า ชาวพม้า เคยถูกจับกุมไปแล้ว 2 คน และครั้งนี้อีก 2 คน และเป็นชาวจังหวัดกระบี่อีก 1 คน ส่วนยาไอซ์และยาบ้าซื้อตามแนวชายแดนไทยจังหวัดเชียงใหม่กับพม่า โดยยาไอซ์ซื้อมา 100 กรัม ราคา 8 หมื่นบาท นำมาขายกรัมละ 800-1,200 บาท ส่วนยาบ้าซื้อมามัดละ 2 พันเม็ด ราคา 1 หมื่นบาท ขายส่งมัดละ 3 หมื่นบาท
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (23 มี ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังเก่า นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.อ.ณัฐวัฒน์ นุ่นชูผล หัวหน้าสำนักข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด พ.ต.ท.ก้องภพ โพธิ์แสน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 จังหวัดกระบี่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวพม่า ซึ่งพบว่ามีพฤติกรรมลักลอบทำมานานกว่า 6 ปี โดยนำมาเสพติดมาจากจังหวัดเชียงใหม่ ขนส่งมาทางรถโดยสาร และแอบซุกซ่อนในหัวหอมและกระเทียม
ร.ต.อ.ณรงค์ อ่อนทอง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย ร.ต.อ.กรณ์นาวัน เกตุทอง รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว รองหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ สืบทราบว่าที่บ้านเลขที่ 21 ถนนวัชระ ซอย 10 หมู่ที่ 3 บ้านคลองจิหลาด ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ มีการลักลอบค้ายาเสพติดและเป็นเอเยนต์รายใหญ่ของขบวนการค้ายาเสพติดชาวพม้า จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น จับกุมตัวบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว สามารถจับกุมตัวนายสามารถ ชายกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 1 บ้านช่องพลี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วยนายยันไนโซ่ อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า และ นายปายปายโซ อายุ 30 ปีสัญชาติพม่า พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 590 กรัม ยาบ้า จำนวน 33,817 เม็ด
จากการสอบสวนปากคำในเบื้องต้น บุคคลทั้งสามให้การรับสารภาพว่า มีนายซูก้า สัญชาติชาวพม่า เป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อนำยาเสพติดมาซุกซ่อนก่อนนำไปส่งขายในพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่ และมนพื้นที่จังหวัดพังงา โดยนายยันไนโซ่ และนายปายปายโซ จะเดินทางไปรับยาเสพติดจากนายซูก้า ที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นจะนำยาเสพติดซุกซ่อนในกระสอบหัวหอมใหญ่และประสอบกระเทียมมากับรถทัวร์ประจำทางจากเชียงใหม่มากรุงเทพมหานคร และต่อรถทัวร์จากกรุงเทพมหานครมาจังหวัดกระบี่ และ จากกรุงเทพมหานครมายังจังหวัดพังงา แล้วนำมาเก็บเพื่อรอส่งให้แก่นายสามารถ ชายกุล เพื่อนำส่งให้ลูกค้าต่อไป โดยทั้ง 3 คน ได้ค่าขนส่งและค่าส่งยาเสพติดครั้งละ 5 หมื่นบาท
นายซูก้า ชาวพม้า เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่โดยผิดกฎหมายกว่า 6 ปี จะเดินทางระหว่างจังหวัดกระบี่กับจังหวัดเชียงใหม่เดือนละหลายครั้ง ซึ่งได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวข้างต้นเป็นสถานที่พักยาเสพติด โดยมีสมุนเป็นชาวพม่า 2 คนเป็นผู้เฝ้า ซึ่งเข้ามาอาศัยเป็นแรงงานขนส่งของในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ เข้าขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งลูกน้องนายซูก้า ชาวพม้า เคยถูกจับกุมไปแล้ว 2 คน และครั้งนี้อีก 2 คน และเป็นชาวจังหวัดกระบี่อีก 1 คน ส่วนยาไอซ์และยาบ้าซื้อตามแนวชายแดนไทยจังหวัดเชียงใหม่กับพม่า โดยยาไอซ์ซื้อมา 100 กรัม ราคา 8 หมื่นบาท นำมาขายกรัมละ 800-1,200 บาท ส่วนยาบ้าซื้อมามัดละ 2 พันเม็ด ราคา 1 หมื่นบาท ขายส่งมัดละ 3 หมื่นบาท