นครศรีธรรมราช - ก้อนน้ำมันปริศนายังทะลักอ่าวหัวไทร จ.นครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง คลื่นซัดเกยหาดเป็นทางยาวไปถึง จ.สงขลา รวมระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร ผู้นำท้องที่ชี้เกิดจากกิจกรรมมนุษย์ในทะเล แต่มีการปกปิดข้อมูล
วันนี้ (15 มี.ค.) สภาพพื้นที่บริเวณริมหาดหลายตำบลใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ทั้งหน้าสตน หัวไทร เกาะเพชร คลื่นยังคงซัดก้อนน้ำมันหลายขนาดเข้าหาฝั่งอย่างต่อเนื่อง บางจุดเป็นตะกอนเม็ดขนาดเล็ก คลื่นซัดเข้ามาจนแนวคลื่นเป็นสีดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด และมีกลิ่นคล้ายน้ำมันเตา หรือน้ำมันก๊าดโชยอยู่ตลอดเวลา และเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีสัตว์ทะเลขนาดเล็กให้เห็นในแนวคลื่นเลย ส่วนบริเวณแนวหาดบางจุดมีก้อนน้ำมันขนาดเล็กเกยหาดเพียงเล็กน้อย แต่กลับพบว่าก้อนน้ำมันจะไปค้างอยู่ที่บริเวณแนวหินกันคลื่นที่ห่างออกไปจากชายหาดประมาณ 50-100 เมตรแทน
ส่วนบริเวณชายหาดแพรกเมือง บ้านฉิมหลา ต.หน้าสตน แม้คลื่นซัดก้อนน้ำมันขึ้นมาบนชายหาดจำนวนมาก แต่ในช่วงเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเต็มไปด้วยชาวบ้านที่พาลูกหลานมาพักผ่อนริมหาด ท่ามกลางบริเวณชายหาดที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำมัน ขณะที่ผู้นำท้องที่ยอมรับว่าคาดหวังใดๆ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ เนื่องจากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำซากเป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะช่วงปลายมรสุม ไม่มีหน่วยงานใดแสดงความรับผิดชอบหรือให้คำตอบถึงที่มาได้ ขณะเดียวกัน ยังพบว่าก้อนน้ำมันที่เข้าเกยหาดในฤดูกาลนี้ลุกลามเลยไปจนถึงชายหาดใน จ.สงขลา ทั้ง อ.ระโนด อ.สทิงพระ และ อ.สิงหนคร รวมระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร
ผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ยืนยันว่า ปรากฏการณ์นี้ต้องเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์แน่นอน ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เพียงแต่ไม่มีหน่วยงานใดกล้าระบุเท่านั้นว่าเกิดขึ้นจากกิจกรรมกลางทะเลชนิดใด หรืออาจทราบแต่เป็นข้อมูลที่ถูกปกปิด นอกจากผลกระทบเชิงกายภาพต่อสิ่งแวดล้อมที่เห็นได้ชัดแล้ว ยังมีความกังวลต่อการตกค้างของสารประกอบโลหะหนักในก้อนน้ำมันที่ส่งผลต่อสัตว์ทะเลหายาก รวมทั้งกลุ่มสัตว์อาหารทะเลเศรษฐกิจที่ถูกจับขึ้นมาบริโภค โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลที่ก้อนน้ำมันขึ้นมาเป็นจำนวนมากเช่นนี้