นครศรีธรรมราช - สัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เร่งผ่าชันสูตรซาก “เต่าตนุ” หลังถูกพบเกยหาดหัวไทรพร้อมก้อนน้ำมัน พบในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะ และของเหลวสีดำ
ความคืบหน้าการชันสูตร “ซากเต่าทะเล” ที่ตายเกยหาด พร้อมกับ “ก้อนน้ำมัน” จำนวนมาก บริเวณหาดบ้านแพรกเมือง บ้านฉิมหลา หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุด วันนี้ (10 มี.ค.) สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ารับซาก “เต่าตนุ” จากอาสาสมัครเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก หลังจากที่พบซากเต่าตัวนี้ตายเกยหาด พร้อมกับก้อนน้ำมันจำนวนมากบริเวณชายหาดแพรกเมือง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันชันสูตร พบว่าเต่าตนุตัวนี้เป็นเต่าเพศเมีย อายุประมาณ 4-5 ปี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม หลังจากที่ผ่าเปิดช่องท้อง และชันสูตรลึกไปจนถึงระบบทางเดินอาหารของเต่า พบว่าภายในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะพลาสติกจำพวกเชือกจากเครื่องมือประมง ถุงพลาสติกขนาดเล็ก และพบของเหลวสีดำคล้ายกับก้อนน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดแล้วละลายกลายเป็นของเหลว โดยทั้งหมดถูกเก็บเป็นตัวอย่างนำไปวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งชิ้นส่วน และเนื้อเยื่อของเต่า หลังจากนั้นได้ฝังกลบซากไว้ในบริเวณหาดทราย
สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เปิดเผยว่า การผ่าชันสูตรนั้นไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ เพราะสภาพซากเริ่มเน่ามากแล้ว แต่จากการตรวจพบในระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขายังสามารถหาอาหารได้ตามปกติ แต่ในลำไส้มีขยะค่อนข้างมากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแน่นอน แต่เรายังไม่สามารถสรุปได้
ส่วนก้อนน้ำมันจำนวนมากที่เกยหาด ขณะนี้ได้ละลายกลายเป็นของเหลวข้นสีดำ และซึมไปในหาดทราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังหวั่นอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์ทะเลหายากในย่านนี้จากสารประกอบโลหะหนักที่อยู่ในก้อนน้ำมัน ซึ่งอาจไปสะสมอยู่ในร่างกายของสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ และจะก่อให้เกิดอาการป่วย หากรับไปในปริมาณมากจะทำให้ตายได้ในทันที
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ พบซาก “เต่าตนุ” ถูกคลื่นซัดเกยหาดหัวไทร ปัญหาก้อนน้ำมันทะลักยังไร้คำตอบ