นราธิวาส - เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส เผยผลการขับเคลื่อนปลูกกาแฟแบบครบวงจร ต่อยอดสู่การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน “กาแฟบาตง” รายแรกของ จ.นราธิวาส
นายเทอดศักดิ์ รัญจวน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ตามที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกับอาสาสมัครเกษตรและสหกรณ์ระดับตำบล ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลเกษตรกรที่ทำสัญญา หรือข้อตกลงกับบริษัทที่เข้าข่ายพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธะสัญญา พ.ศ.2560 พบว่า จังหวัดนราธิวาส มีเกษตรกรที่ได้ทำสัญญา หรือตกลงกับบริษัทฯ จำนวน 2 ชนิดพืช ได้แก่ โกโก้ และกาแฟ โดยส่วนใหญ่ปลูกแซมในสวนยางพารา สวนผลไม้ ต่อมาทางสำนักงานฯ ได้จัดทำแผนลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้แก่เกษตรกร หลังพบว่าเกษตรกรไม่ทราบ และไม่มีความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งมีความเสี่ยงที่บริษัทฯ จะเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรได้ จึงเข้ามาให้ความรู้ และส่งเสริมสนับสนุน
สำหรับ “พืชกาแฟ” จากการสำรวจพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งมีเกษตรกรรายหนึ่งที่ปลูกกาแฟมายาวนาน คือนางซารีฮะ สะมาวี อยู่บ้านเลขที่ 60/3 หมู่ 5 บ้านตันหยง ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นเกษตรกรรายย่อย และมีบุตรชาย คือนายลุตฟี สะมาวี เป็นผู้ช่วยทำการเกษตร ล่าสุด ทางสำนักงานฯ ได้ร่วมกับ NBT World สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ เกษตรอำเภอรือเสาะ และเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ร่วมถ่ายทำสารคดีสันติสุขชายแดนใต้ ภาคภาษาอังกฤษ “กาแฟบาตง” เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และขยายผลกาแฟบาตงไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งสามารถเป็นอาชีพอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร สามารถปลูกแซมในสวนยางพารา หรือปลูกเชิงเดี่ยว สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว โดยมี นางซารีฮะ สะมาวี เป็นเกษตรกรต้นแบบบ้านบาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้ปลูกกาแฟ จำนวน 3.5 ไร่ มีอายุ 4 ปี ในปี 2563 มีผลผลิต จำนวน 500 กิโลกรัม และได้ขยายผล และมีการรวมกลุ่มผู้ปลูกกาแฟแล้ว จำนวน 27 ราย ในพื้นที่ 19 ไร่
นายเทอดศักดิ์ รัญจวน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกว่า สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอรือเสาะ จะส่งเสริม และสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบาตง ให้มีการขยายผล เพิ่มพื้นที่ปลูก เพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพ ลดต้นทุนโดยการใช้ปุ๋ยชีวภาพ ลดปุ๋ยเคมี รวมถึงจะส่งเสริมให้กลุ่มจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน และเข้าสู่หลักเกณฑ์การรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP ซึ่งปัจจุบันผลผลิตยังมีไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ และจำหน่ายตลาดออนไลน์ มีกรรมวิธีการผลิตไม่ใช้เครื่องจักร ใช้คนเป็นหลัก (ระบบมือ) ทำให้มีรสชาติหอม ละมุน เป็นเอกลักษณ์ “กาแฟบาตง” อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส