xs
xsm
sm
md
lg

จับตาการเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ “ศึกชนช้าง” ของผู้สมัครทั้ง 5 ทีม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จับตาการเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการชนช้างจากผู้สมัครทั้ง 5 ทีม ที่มีทั้งชื่อเสียงและความรู้ความสามารถ

สนามการเลือกตั้ง “เทศบาลนครหาดใหญ่” จ.สงขลา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการชนช้าง เพราะผู้สมัครทั้ง 5 ทีมต่างเป็นทีมที่มีชื่อชั้น มีความรู้ความสามารถ ในขณะที่บางทีมมีเงินถุงเงินถัง และเตรียมใช้แผนในการยิงสลุตในโค้งสุดท้ายเพื่อเข้าสู่เส้นชัย

เจ้าของตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่คนเดิม คือ ดร.ไพร พัฒโน ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรี 3 สมัย ครั้งนี้จับได้หมายเลข 2 แม้เจ้าตัวจะมีบาดแผล และอยู่ในระหว่างต่อสู้คดีในศาลทุจริตประพฤติมิชอบ แต่เมื่อคดียังไม่สิ้นสุดก็ยังมีสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้

ส่วนผู้ที่จับได้หมายเลข 1 คือ ณรงค์พร ณ พัทลุง หัวหน้าทีมปลัดแป้น อดีตนายอำเภอหาดใหญ่ อดีตปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช และปลัดจังหวัดสงขลา เป็นนักปกครองน้ำดี และเป็นทีมแรกที่ประกาศตัวกับชาวบ้านก่อนจะมีการรับสมัครหลายเดือน เป็นทีมที่มีความพร้อมเพื่อการทำการเมืองท้องถิ่นทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน

หมายเลข 3 ได้แก่ อดีต ผกก.สภ.หาดใหญ่ อดีต ผบช.ตร.ท่องเที่ยว พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ที่มีฉายาเรียกกันในหมู่คนใกล้ชิดว่า “พี่หลวง” ซึ่งเคยประกาศที่จะเป็นนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2562 หลังเกษียณอายุราชการ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจประกาศตัวในการจะสมัครเป็นนายก อบจ.สงขลา แต่ก็มีการเปลี่ยนม้ากลางศึกให้ นายไพเจน มากสุวรรณ ลงสมัครนายก อบจ.แทน โดยพี่หลวง รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายก อบจ.สงขลา ซึ่งกลายเป็นประเด็นทางกฎหมายให้ พ.อ.พิเศษ สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ที่พ่ายแพ้ให้แก่ ไพเจน ร้องให้ กกต.สงขลา ตรวจสอบถึงเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครในขณะนี้

หมายเลข 4 นายพงษ์ศักดิ์ จิโรภาส นักธุรกิจ ชาวหาดใหญ่ ที่เป็นคนหน้าเดิมทางการเมือง เพราะเคยลงสมัครแล้ว 3 ครั้ง และแต่ละครั้งก็ได้คะแนนพอสมควร แต่ไปไม่ถึงเก้าอี้นายกเทศมนตรี

ส่วนหมายเลขสุดท้ายหมายเลข 5 คือ นายประยูร วงศ์ปรีชากร อดีตประธานหอการค้า จ.สงขลา เมื่อหลายสิบปีก่อนที่เคยโด่งดังในเรื่องหาดใหญ่เขตปลอดอาวุธ ซึ่งวันนี้อยู่ในวัย 73 ปี แต่ยังบอกกับคนหาดใหญ่ว่า ยังพร้อมทั้งสุขภาพและสติปัญญา อาสาที่จะเปลี่ยนหาดใหญ่ ในฐานะหัวหน้าทีม “คณะก้าวหน้าสงขลา”

เมื่อมาดูนโยบายการหาเสียงของแต่ละทีมแล้วพบว่า วันนี้คนหาดใหญ่ให้ความสนใจในเรื่องของนโยบายมากกว่าตัวบุคคล และนโยบายที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดคือ นโยบายของทีมปลัดแป้น ผู้ที่ออกโปสเตอร์ขายไอเดียก่อนทีมอื่น และใช้วิธีลงพื้นที่สัมผัสกับชาวบ้าน ปราศรัยพูดคุยแบบวงเล็ก ในขณะที่บางทีมยังใช้วิธีการเดิมคือจัดเวทีปราศรัยใหญ่

เลือกตั้งครั้งนี้นับเป็นโชคดีของคนในเทศบาลนครหาดใหญ่ เพราะทั้ง 5 ทีมที่เสนอตัวให้เลือกล้วนเป็นผู้มีความรู้ มีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำองค์กรมาแล้วทั้งสิ้น เลือกตั้งท้องถิ่นผิดกับการเลือกตั้ง ส.ส. และ อบจ. เพราะผลดีผลเสียจากการบริการคนในท้องถิ่นต่างมีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเฉพาะวันนี้ “หาดใหญ่” ต้องการคนมีฝีมือมาเป็นผู้นำเพื่อฟื้นฟูเมือง


กำลังโหลดความคิดเห็น