ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทึ่ง! ไข่ฉลามติดมากับซากอวนเจ้าหน้าที่นำมาเพาะฟัก สุดท้ายออกจากไข่สมบูรณ์ ตรวจสอบเป็นชนิดฉลามกบ เตือนจัดกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเลต้องระวังเพราะอาจมีไข่ของสัตว์ทะเลติดมากับขยะได้
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติทางทะเล ถึงการอนุบาลไข่ปลาฉลามที่ติดมากับอวนเก่า ในกิจกรรมเก็บกู้เครื่องมือประมงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บมาเพาะฟักเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 จากอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ไข่ฉลามสามารถฟักเป็นตัวแล้ว พบว่าเป็นชนิดฉลามกบ
อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังล่าวออกไปปรากฏว่า มีคนมาแสดงความคิดเห็นและยินดีกับสมาชิกใหม่ที่เกิดขึ้นจากการดูแลของเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้ฉลามกบที่ฟักออกจากไข่มีสภาพสมบูรณ์ และเจ้าหน้าที่กำลังดูแล ก่อนที่จะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
โดยในเฟซยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฉลามเป็นปลาฉลามที่พบได้ทั่วไปในน่านน้ำไทย กินปลาขนาดเล็ก หมึก หอย กุ้ง และปูเป็นอาหาร ฉลามกบออกลูกเป็นไข่ ครั้งละ 2 ฟอง ซึ่งไข่มีลักษณะเป็นกะเปาะรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดความยาว 7-9 ซม. ที่ปลายจะมีเส้นใยสำหรับยึดเกาะวัตถุใต้น้ำ โดยแม่ปลาจะวางไข่ตามกองหินใต้น้ำ หรือตามกอสาหร่าย ต่อจากนี้จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่ออนุบาลให้มีความแข็งแรงก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล
ทั้งนี้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ และเป็นข้อควรระวังในพื้นที่อื่นๆ ที่มีกิจกรรมเก็บขยะตามแนวปะการัง หรือตามพื้นที่ต่างๆ ว่าซากเครื่องมือประมงเก่าบางครั้งอาจมีไข่สัตว์น้ำ ปะการัง สัตว์อื่นติดมาหรือไม่ก่อนการนำขยะที่คัดแยกได้ไปทิ้ง และถ้านักดำน้ำ หรือเจ้าหน้าที่เก็บขยะที่อยู่ตามแนวปะการัง หรือตามระบบนิเวศต่างๆ ควรพิจารณาถึงสภาพขยะประเภทนั้นๆ ว่าก่อให้เกิดอันตรายหรือรบกวนระบบนิเวศหรือไม่ ซึ่งบางครั้งพบว่าเป็นเศษอวนเก่าที่มีปะการังขึ้นปกคลุมแล้ว ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บกู้ขึ้นมา เพราะจะทำให้สูญเสียปะการังที่ขึ้นปกคลุมอยู่ การจัดเก็บขยะโดยเฉพาะในแนวปะการังควรลงมือทำด้วยความรู้ความเข้าใจ จะทำให้กิจกรรมเก็บขยะนี้เกิดผลสำเร็จสูงสุด
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติทางทะเล ถึงการอนุบาลไข่ปลาฉลามที่ติดมากับอวนเก่า ในกิจกรรมเก็บกู้เครื่องมือประมงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บมาเพาะฟักเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 จากอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ไข่ฉลามสามารถฟักเป็นตัวแล้ว พบว่าเป็นชนิดฉลามกบ
อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังล่าวออกไปปรากฏว่า มีคนมาแสดงความคิดเห็นและยินดีกับสมาชิกใหม่ที่เกิดขึ้นจากการดูแลของเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้ฉลามกบที่ฟักออกจากไข่มีสภาพสมบูรณ์ และเจ้าหน้าที่กำลังดูแล ก่อนที่จะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
โดยในเฟซยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฉลามเป็นปลาฉลามที่พบได้ทั่วไปในน่านน้ำไทย กินปลาขนาดเล็ก หมึก หอย กุ้ง และปูเป็นอาหาร ฉลามกบออกลูกเป็นไข่ ครั้งละ 2 ฟอง ซึ่งไข่มีลักษณะเป็นกะเปาะรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดความยาว 7-9 ซม. ที่ปลายจะมีเส้นใยสำหรับยึดเกาะวัตถุใต้น้ำ โดยแม่ปลาจะวางไข่ตามกองหินใต้น้ำ หรือตามกอสาหร่าย ต่อจากนี้จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่ออนุบาลให้มีความแข็งแรงก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล
ทั้งนี้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ และเป็นข้อควรระวังในพื้นที่อื่นๆ ที่มีกิจกรรมเก็บขยะตามแนวปะการัง หรือตามพื้นที่ต่างๆ ว่าซากเครื่องมือประมงเก่าบางครั้งอาจมีไข่สัตว์น้ำ ปะการัง สัตว์อื่นติดมาหรือไม่ก่อนการนำขยะที่คัดแยกได้ไปทิ้ง และถ้านักดำน้ำ หรือเจ้าหน้าที่เก็บขยะที่อยู่ตามแนวปะการัง หรือตามระบบนิเวศต่างๆ ควรพิจารณาถึงสภาพขยะประเภทนั้นๆ ว่าก่อให้เกิดอันตรายหรือรบกวนระบบนิเวศหรือไม่ ซึ่งบางครั้งพบว่าเป็นเศษอวนเก่าที่มีปะการังขึ้นปกคลุมแล้ว ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บกู้ขึ้นมา เพราะจะทำให้สูญเสียปะการังที่ขึ้นปกคลุมอยู่ การจัดเก็บขยะโดยเฉพาะในแนวปะการังควรลงมือทำด้วยความรู้ความเข้าใจ จะทำให้กิจกรรมเก็บขยะนี้เกิดผลสำเร็จสูงสุด