ชาวบ้านเดินเท้าไปยื่นหนังสือทวงถามที่ดินชุมชนคู่เมืองกระบี่ อยู่ในเขตป่าฯ เดือดร้อนหนักทำประโยชน์ไม่ได้

กระบี่ - ชาวบ้านชุมชนคู่เมืองกระบี่ เดินเท้า 5 กม.ไปยื่นหนังสือที่สำนักจัดการทรัพยากรป้าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ทวงถามที่ดิน 11 ไร่ ที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ 32 ครอบครัว หลังได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (17 ก.พ.) นายพรปรีดา คงอ่อน ประธานคณะกรรมการชุมชนคู่เมือง เขตเทศบาลเมืองกระบี่ พร้อมตัวแทนชาวบ้านกว่า 20 คน เดินเท้าออกจากปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ สามแยกในสระ ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ไปตามถนนเพชรเกษม ระยะทาง กว่า 5 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เพื่อยื่นหนังสือทวงถามความชัดเจนเกี่ยวกับที่ดินในพื้นที่ชุมชนคู่เมือง พื้นที่ 11 ไร่ 2 งาน รวม 36 แปลง ว่า เป็นที่ดินที่คาบเกี่ยวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ เนื่องจากชาวบ้านจำนวน 32 ครอบครัว ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ รวมทั้งการนำงบประมาณมาพัฒนาสร้างถนน สาธารณูปโภค


เมื่อไปถึงที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสุชาติ คงชุม ผอ.ส่วนจัดการที่ดิน ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้ออกมารับหนังสือและกล่าวว่า เรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชนคู่เมืองเกี่ยวกับที่ดินทำกินนั้นเพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องเกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าว ตนเองในฐานะเจ้าหน้าที่จะนำเรื่องดังกล่าวไปรายงานต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตามขั้นตอนต่อไป

นายพรปรีดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเมื่อครั้งที่เดินทางมาปฏิบัติราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.62 ที่ผ่านมาว่า เป็นราษฎรที่อาศัยทำกินในเขตป่าชายเลนชุมชนคู่เมือง 1 และคู่เมือง 2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ และชุมชนซอยกระบี่เขาทอง 25 หมู่ที่ 7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ต่อมา สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 26 (เมืองกระบี่) ได้ลงพื้นที่สำรวจหาค่าพิกัดแปลงที่ดินตามโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ได้ตรวจสอบแล้วแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่อยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีและไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ


ต่อมา สำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจแนวเขต เพื่อที่ชาวบ้านต้องการขอออกโฉนด ปรากฏว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวตั้งอยู่คาบเกี่ยวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกระบี่ใหญ่ และป่าคลองเหนือคลอง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ จังหวัดกระบี่ได้มีหนังสือถึงสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ให้ตรวจสอบว่าตำแหน่งที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกระบี่ใหญ่ และป่าคลองเหนือคลอง กี่ไร่กี่แปลง เพื่อให้ทางจังหวัดกระบี่ ได้รายงานให้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีทราบต่อไป หนังสือลงวันที่ 24 ก.ค.62 จนเวลาล่วงเลยถึงมาถึงวันที่ 17 ก.พ.64 ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ จึงอยากให้ทางสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา