กระบี่ - ลูกแชร์แห่แจ้งความหลังถูกเท้าแชร์หลอกให้ลงทุนแชร์ออนไลน์ สุดท้ายเชิดเงินหนีสูญเงินว่า 60 ล้านบาท ลูกแชร์หลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 230 ราย ทั้งในจังหวัดกระบี่และต่างจังหวัด ขณะที่ผู้เสียหายบางรายต้องผูกคอตาย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ชาวบ้านในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง จำนวนกว่า 30 คน ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เพื่อเอาผิดต่อ น.ส.สุนันทา บิลเหล็ม อายุ 29 ปี ชาว อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ หลังถูกผู้ต้องหาชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์ออนไลน์โดยให้เงินปันผลหรือผลกำไรสูง แต่สุดท้ายเชิดเงินหนี ทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.สัญญา ทองสวัสดิ์ ผกก.สภ.อ่าวลึก ออกมารับเรื่องและให้ผู้เสียหายไปนั่งรอที่ล้านข้างโรงพัก และให้ทยอยเข้าแจ้งความครั้งละ 4 คน เพื่อป้องกันความวุ่นวาย
โดยผู้เสียหายที่มาแจ้งความวันนี้ร่วมลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน โดยช่วงแรกจ่ายเงินปันผลดีจนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเอาเงินปันผลที่ได้มาลงทุนต่อเพื่อให้ได้ผลกำไรเริ่มขึ้น มีทั้งรายวัน ราย 10 วัน 12 วัน และ 15 วัน แต่สุดท้ายก็เชิดเงินหนี ไม่สารถติดต่อได้ บางรายสูญเงินไปกว่า 2.5 ล้านบาท สร้างความเครียดแก่คนในครอบครัวญาติพี่น้อง จนถึงขั้นผูกคอตายก็มี
น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัวชาว จ.ตรัง กล่าวว่า ก่อนที่จะร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา โดยเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งมีการเปิดบ้านตั้งกลุ่มให้สมาชิกเข้าร่วมลงทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งตนเห็นว่าได้รับผลตอบแทนดี ช่วงแรกรับเงินตอบแทนดี ลงทุนไป 1 หมื่นบาท ภายในเวลา 7 วัน ได้เงินกลับมา 15,000 บาท จึงได้ลงทุนต่อมาเรื่อยๆ โดยเอากำไรที่ได้รับมาลงทุนต่อ จากหลักแสนจนถึงหลักล้าน
แต่เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา รู้สึกผิดสังเกตเริ่มมีการชักชวนให้เอาเงินตอบแทนที่จะได้ในแต่ละรอบไปลงทุนต่อ จากนั้นสัปดาห์ถัดมา ทาง น.ส.สุนันทา ก็ประกาศในกลุ่มไลน์ว่า ขอปิดบ้านเพราะไม่สามารถไปต่อได้ โดยอ้างว่านายทุนจะติดต่อกลับมาหาทุกคนเพื่อจ่ายเงินคืน ซึ่งในกลุ่มมีสมาชิกอยู่ 236 คน วงเงินกว่า 60 ล้าน ไม่มีใครได้รับเงินคืนแม้แต่แต่คนเดียว หลังจากนั้น น.ส.สุนันทา ก็เงียบหายไป ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย สมาชิกในกลุ่มจึงรวมตัวมาแจ้งความ
น.ส.ไหม (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวอำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเงินทั้งหมดที่มีอยู่ ทั้งของลูก สามี และญาติ ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวทะเบียนรถเอามาลงทุนกับ น.ส.สุนันทา จนหมดตัว รวมกว่า 5 แสนบาท ซึ่งพอสามีทราบเรื่องว่าถูกหลอก ก็เกิดความเครียดและผูกคอตายไปเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ตนเสียใจมาก นอกจากนี้ พี่สาวของตนก็ร่วมลงทุนด้วย มีอาการเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก ต้องนอน รพ.10 กว่าวัน และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วัน อยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี หรือให้เจ้าตัวมาเคลียร์กับผู้เสียหายว่าจะชดใช้อย่างไร
ด้าน พ.ต.อ.สัญญา กล่าวว่า ในเบื้องต้นมีผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความก่อนหน้านี้แล้ว 4 ราย และยังเข้ามาแจ้งความอีกต่อเนื่อง กรณีที่เกิดขึ้นเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าไปหลงเชื่อให้มีการการลงทุนในระยะสั้นๆ ได้กำไรมาก เช่นลงทุน 1 หมื่นได้ 1.4 หมื่นในระยะเวลา 10 วัน ไม่มีธุรกิจไหนทำแบบนี้ ยกเว้นว่าเป็นการหลอกลวง โดยเฉพาะช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้มีเยอะมาก