xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งมอดไม้ลอบตัดโค่นไม้บนเทือกเขาสันกาลาคีรี ริมชายแดนไทย-มาเลเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - มอดไม้ลักลอบตัดโค่นไม้บนเทือกเขาสันกาลาคีรี บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ต้นน้ำคลองคอกช้าง แม่น้ำปัตตานี เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง

ภายใต้การสั่งการของ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4/แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน. นายอำเภอธารโต จ.ยะลา ผบ.ฉก.ยะลา ให้เจ้าหน้าที่แผนกภัยความมั่นคง กปก.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน. ประสานงาน ฉก.ยะลา นำโดย พ.อ.อัฑฒเศรษฐ์ เต็มมีศรี รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา พ.ต.ท.กรณ์ ไชยเสือ ผบ.ฉก.ตชด.44 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่หวาด นำโดย พ.ต.ท.นธชิต สุพัฒนานรากุล กก.สส.1 บก.สส.จชต. อส.อ.ธารโต จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ ขกท.พล.ร.15 เจ้าหน้าที่ บก.ควบคุม 4 เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองธารโต หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.3 (ลำพะยา-บันนังสตา-ฮาลา) เจ้าหน้าที่ ศปป.ที่ 4 (ภาคใต้) และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.แม่หวาด พร้อมด้วย ชรบ. อรบ.ม.7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา จำนวน 160 นาย

ภายหลังจากได้รับรายงานว่ามีกลุ่มบุคคลขึ้นไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจำนวนหลายแปลง ติดกับชายไทย-มาเลเซีย ระหว่างหลักเขตหมายเลขที่ 48-49 ขอให้ไปตรวจสอบจับกุม เจ้าหน้าที่จึงประชุมวางแผนร่วมกันออกปิดล้อม พิสูจน์ทราบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ถาวร พื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำเพื่อกิจการนิคม กำลังถูกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ท้องที่บ้านคอกช้าง หมู่ 7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ได้เดินเท้าจากจุดจอดรถขึ้นไปบนภูเขา ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงเขตแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่างใกล้หลักเขตแดนที่ 48-49 ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์กำลังถูกทำลายใหม่ และเก่าจำนวนหลายแปลง มีการตัดโค่นต้นไม้มีค่าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตรวจพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายแล้ว จำนวน 2 แปลง ดังนี้


แปลงที่ 1 ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 878 เมตร ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์กำลังถูกลักลอบทำลายมาแล้วประมาณ 3 เดือน แล้วมีการลักลอบแผ้วถางป่าใหม่จนถึงปัจจุบัน ต้นไม้มีค่ายืนต้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก ถูกตัดด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ต้นไม้มีค่ายืนต้นขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า ตรวจวัดพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายได้ จำนวน 5 ไร่ ยึดถือครอบครองเพื่อทำการเกษตร

ตรวจสอบพบมีที่พักหลังคามุงสังกะสี ฝากั้นไม้ไผ่ จำนวน 1 หลัง ลักษณะคนเพิ่งออกไปใหม่ จึงทำการตรวจสอบจุดลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ตรวจพบต้นไม้มีค่าหวงห้ามขนาดต่างๆ ถูกตัดโค่นล้มคาตอจำนวนมาก ได้ทำการตรวจชนิดไม้ และตรวจวัด จำนวน 33 ต้น ตรวจยึดเป็นของกลาง ดังนี้ 1.ไม้ยางนา จำนวน 2 ต้น 2.ไม้สยา จำนวน 13 ต้น 3.ไม้กาลอ จำนวน 10 ต้น 4.ไม้เปรียง จำนวน 2 ต้น 5.ไม้ก่อ จำนวน 1 ต้น 6.ไม้มังคะ จำนวน 1 ต้น 7.ไม้ขนุนปาน จำนวน 2 ต้น 8.ไม้ฝาด จำนวน 1 ต้น และ 9.ไม้ตีนเป็ด จำนวน 1 ต้น

แปลงที่ 2 ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 739 เมตร ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้ถูกลักลอบทำลายมาแล้ว 3 เดือน แล้วมีการลักลอบแผ้วถางตลอดเวลา ต้นไม้มีค่ายืนต้นขนาดเล็ก ถูกตัดด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ และไม้ขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า ตรวจวัดพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายได้ จำนวน 1 ไร่ 1 งาน ยึดถือครอบครองเพื่อทำการเกษตร ปลูกต้นทุเรียนขนาดเล็ก เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจวัดไม้ขนาดเล็กแต่อย่างใด


เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการร่วมกันตรวจยึดเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อนิวเวสน์ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ และตรวจยึดเลื่อยโค้ง จำนวน 1 ปื้น ซุกซ่อนอยู่ใกล้พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย ไม้ท่อนถูกตัดล้มคาตอยังทิ้งอยู่ที่เกิดเหตุ ขณะตรวจสอบไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดในพื้นที่ป่าถูกทำลาย คาดว่าเพิ่งหลบหนีไป

พนักงานสอบสวน สภ.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เก็บวัตถุพยาน และสิ่งกลางอื่นๆ โดยกล่าวหาว่ากลุ่มบุคคลที่ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ลักลอบแปรรูปไม้ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 และ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 เหตุเกิดที่พื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ถาวร พื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำเพื่อกิจการนิคม ท้องที่บ้านคอกช้าง หมู่ 7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ระหว่างแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย หลักเขตที่ 48-49 เทือกเขาสันกาลาคีรี เป็นพื้นที่ต้นน้ำคลองคอกช้าง แม่น้ำปัตตานี เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองเบตง และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.3 (ลำพะยา-บันนังสตา-ฮาลา) จัดทำบันทึกรายละเอียด นำเรื่องร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น