ยะลา - บิ๊กบอสการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลงพื้นที่หารือเลขาธิการ ศอ.บต. ถึงสถานการณ์โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ที่กำลังบาดในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
วันนี้ (9 ก.พ.) นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การยางแห่งประเทศไทย นายพิสิษฐ สุขอนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาการผลิต นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง นายสุรชัย บุญวรรโณ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย เขตภาคใต้ตอนล่าง และคณะผู้บริหารในเขตภาคใต้ตอนล่างทั้ง 5 จังหวัด ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา เพื่อติดตามพื้นที่ที่เป็นโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา และพื้นที่ที่ทาง กยท.ได้จัดสรรงบประมาณจากการกองทุนพัฒนายาง ตามมาตรา 49 (3) เป็นงบอุดหนุนให้แก่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางหลายๆ สถาบัน เพื่อซื้อเครื่องฉีดพ่นแรงดันสูง และสารเคมีสำหรับฉีดพ่นโรคใบร่วงยางพารา
ซึ่งผลปรากฏว่าในพื้นที่ที่ได้มีการฉีดพ่นสารเคมี ก็จะมีโรคลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ผลการฉีดพ่นไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควร แต่ถ้ามีการฉีดพ่นซ้ำหลายๆ ครั้ง ก็จะทำได้ผลในระดับที่ยังพอยอมรับได้ แต่ยังกลับมาเป็นซ้ำอีก และนอกจากวิธีการฉีดพ่นสารเคมีแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่เกษตรกรชาวสวนยางนำมาใช้ในการแก้ปัญหาโรคใบร่วงยางพารา คือ การบำรุงรักษาต้นยางให้มีความอุดมสมบูรณ์ แข็งแรง โดยการใส่ปุ๋ยบำรุงดิน ซึ่งจะทำให้เกิดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราน้อยกว่าในพื้นที่ แต่เนื่องจากพื้นที่ใน จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา มีพื้นที่สวนยางที่เป็นโรคในปริมาณมาก ทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก
ซึ่งในวันนี้ กยท. โดยประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมหารือแนวทางในการแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา กับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อบูรณาการหาแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ซึ่งในเบื้องต้น เรื่องที่ควรจะรีบดำเนินการก็คือการรักษาพื้นที่สวนยางที่ไม่เป็นโรคดังกล่าวให้ปลอดภัย และเร่งดำเนินการหามาตรการในการกำจัดสวนยางที่เป็นโรคให้เร็วที่สุด ซึ่งทาง กยท. และ ศอ.บต.จะต้องร่วมกันในการแก้ปัญหาดังกล่าวให้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญควรมีการส่งเสริมอาชีพอื่นให้เป็นทางเลือกแก่เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ควบคู่กันไป และในส่วนนี้ กยท.มีงบประมาณจากกองทุนพัฒนายางพาราตามมาตรา 49 (5) ให้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางกู้ไปเพื่อประกอบอาชีพเสริมอีกทางหนึ่งด้วย
นายประพันธ์ บุณยเกียรติ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่นี้ เกิดขึ้นมาเป็นปีที่ 2 แล้ว และทาง กยท.มิได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหา ได้มีการดำเนินการทุกวิธีเพื่อแก้ปัญหาโรคใบร่วงดังกล่าว ในบางพื้นที่ได้มีการจัดสรรงบประมาณให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อซื้อเครื่องฉีดพ่นแรงดันสูง และสารเคมีให้ไปฉีดในพื้นที่ที่สวนยางเป็นโรค แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น กยท. และส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะต้องสร้างความตระหนักให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางให้มากขึ้นกว่านี้ เพื่อที่จะได้หาแนวทางในการจัดการโรค และป้องกันโรคในพื้นที่ที่ไม่เป็นเป็นโรค สำหรับในเรื่องของการเยียวยานั้น ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อาจจะต้องนำมาพิจารณาในระยะยาวต่อไป แต่ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการในขณะนี้คือต้องหาวิธีกำจัดโรคใบร่วงยางพาราชนิดใหม่นี้ให้ได้ก่อน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในระยะยาวต่อไป
