พัทลุง - ผู้เสียหายหลายรายรวมตัวเข้าแจ้งความ สภ.เมืองพัทลุง หลังถูกแม่ค้าออนไลน์หลอกเงินให้ลงทุนขายของ แต่กลับถูกเชิดเงินหนีไป เผยเคยแจ้งความพูดคุยตกลงให้ชดใช้แล้ว แต่กลับไม่มีการใช้คืนจนต้องแจ้งความอีกครั้ง
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุง ผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางนิคม รองเดช แม่ค้าขายสินค้าออนไลน์ และเป็นยูทูบเบอร์ชอบไลฟ์สดขายสินค้าทุกอย่าง อยู่ในท้องที่ ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ต่อ ร.ต.อ.สมหมาย รักษ์ชูชื่น ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง หลังจากชวนเพื่อนในเฟซบุ๊กทักแชตให้ร่วมสนับสนุนลงทุนขายส่งกาแฟออนไลน์ พร้อมเสื้อผ้า กระเป๋าหนัง รวมทั้งกระเป๋ากระจูดและสินค้าพื้นเมือง แต่เมื่อเพื่อนในเฟซบุ๊กร่วมลงทุนแล้วกลับเชิดเงินหนี รวมมูลค่าหลายแสนบาท พร้อมทั้งหลอกลวงถึงผลกำไรในการลงทุนที่คุ้มค่า โดยผู้เสียหายบางคนต้องทุบกระปุกออมสินเพื่อมาลงทุน
ด้าน น.ส.อลิสา สรรสุธรเทพ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1หมู่ 7 ต.ท่าแค.อ.เมือง จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับ นางนิคม หลังจากได้เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก โดยเห็นนางท่าทางดูดี ทำตัวหรู ชอบถ่ายรูปคู่กับคนดังและศิลปิน และไลฟ์สดขายสินค้า หลังจากได้มีการพูดคุยกันทางแชต เนื่องจากเธอไม่มีเงินลงทุนจะขายกาแฟเพื่อสุขภาพออนไลน์จึงเป็นคนสนับสนุนให้ เนื่องจากนางนิคม บอกว่าได้กำไรงาม และเมื่อดูจากการไลฟ์สดทำให้เห็นว่ามียอดขายที่ดีจึงได้ร่วมลงทุน 125,000 บาท แต่พอโอนเงินไปให้แล้วกลับเชิดเงินหายไป และพยามติดต่อขอเงินคืนก็บ่ายเบี่ยงตลอด อ้างโน่นอ้างนี่มานานหลายเดือนจนสุดท้ายก็ไม่ได้คืน
ขณะที่ น.ส.ศุรัตญา หีมหรับ อายุ 42 ปี ที่อยู่ 315 ม.3 ถ.กิโลเมตร 6 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อายุ 42 ปี น.ส.วาสนา แจ้งชาติ อายุ 42 ปีที่อยู่ 12 ซ.1 ถ.เจริญดิษฐอินทร์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และ น.ส.มนัตตา ยานสิขโข อายุ 42 ปี ที่อยู่ 95 หมู่ 6 ต.หานโพ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความกล่าวว่า ได้เป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กกับ นางนิคม รองเดช และได้ชวนให้มีการลงทุนและนำสินค้าของผู้เสียหายไปขายโดยไม่คืนทั้งทุนและกำไร
โดยนางนิคม มักชอบทำตัวเป็นคนดี เปิดรับเงินบริจาคช่วยเหลือสังคม ทำให้หลายคนที่รู้จักคิดว่าเป็นคนดี แต่สุดท้ายกลับไม่ใช่ หากินโดยการหลอกเงินคนอื่น ไลฟ์สดเพื่อสร้างคะแนนความสงสาร โดยพวกตนพยายามพูดคุยกับนางนิคม หลายรอบแต่กลับบ่ายเบี่ยง แม้จะแจ้งความไว้ที่ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ไปแล้ว 1 ครั้ง สุดท้ายได้มีการพูดคุยจะชดใช้ให้ แต่แล้วกลับไม่ชดใช้เลยต้องเข้าแจ้งความคดีฉ้อโกงอีกครั้ง
ขณะที่ผู้เสียหายยังระบุอีกว่า ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่เจอในลักษณะเดียวกัน ซึ่งบางคนอยู่ต่างจังหวัดจึงไม่ได้เดินทางมาแจ้งความพร้อมกัน และการเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้เพื่อไม่ให้ นางนิคม ไปสร้างความเดือดร้อนหรือหลอกชาวบ้านรายอื่นต่อไป
