ตรัง - รวบตัวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง หลังตกเป็นผู้ต้องหายิงชาวบ้านหาของป่าในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน แต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยันพยานหลักฐานชัดเจน
วันนี้ (4 ก.พ.) จากกรณีที่ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาว ซุ่มยิงชาวบ้านหาของป่าในบริเวณพื้นที่ลำห้วย และในสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน เนื้อที่รวมกว่า 638 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายเพ็ชรฤทธิ์ จันทร์ดวง อายุ 26 ปี ถูกกระสุนเข้าบริเวณข้อศอกด้านซ้ายและหน้าอกใกล้ลำคอ โดยที่บริเวณหน้าอกกระสุนฝังใน แต่หมอยืนยันไม่อันตรายจึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และนายทวีศักดิ์ เหมรา อายุ 33 ปี ถูกกระสุนเข้าบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เช่น ที่หน้าแข้ง หลังเท้า และเหนือเข่า
ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นชาว ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง แต่โชคดีกระสุนดังกล่าวคาดว่าเป็นกระสุนจากอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ทำให้กระสุนกระจัดกระจายไม่ถูกจุดสำคัญ จึงรอดชีวิตกลับมาได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้ง 2 คนไปหาปลา และจะเข้าไปเก็บผลปาล์มน้ำมันในสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานดังกล่าว
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังวิเศษ และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดตรัง เร่งสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่พยายามเข้าครอบครองพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัมปทาน เพื่อเก็บผลประโยชน์จากผลผลิตปาล์มน้ำมัน โดยกีดกันไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ เพราะกลัวจะเข้าไปขโมยผลผลิตปาล์มน้ำมัน โดยมีบางคนรับหน้าที่เฝ้าพื้นที่ และไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปหาของป่า พร้อมทั้งชอบพกพาอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ที่ทางราชการออกให้ไว้กับตัว และมีพฤติกรรมชอบยิงปืนข่มขู่ ทั้งนี้ กลุ่มผู้อิทธิพลในพื้นที่ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้รับสัมปทานรายเก่าแต่อย่างใด
ล่าสุด พ.ต.อ.ประวิทย์ เขียวไสว ผู้กำกับการ สภ.วังวิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนกระทั่งสามารถออกหมายจับและจับกุมตัว นายจำลอง แซ่ตัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง หมู่ 10 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 และผู้เสียหายทั้ง 2 คนให้การยืนยัน ทั้งนี้ ในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ยังพยายามตามหา แต่ในส่วนของอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ที่ทางราชการออกให้นั้น ขณะนี้หลังเกิดเหตุทางอำเภอวังวิเศษได้เรียกอาวุธปืนดังกล่าวกลับทางราชการแล้ว เพื่อเทียบเคียงกับวัตถุพยานที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองไปในหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยืนยันในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เจ้าของพื้นที่ เพื่อขยายผลต่อไปยังคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมยืนยันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หากใครทำผิดกฎหมายก็พร้อมดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม หลังถูกจับกุมได้มีกลุ่มมวลชนฝ่ายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งญาติพี่น้องเดินทางไปกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปล่อยตัว เบื้องต้น ได้รับการประกันตัวไปตามสิทธิในชั้นพนักงานสอบสวนวงเงินหลักทรัพย์ 200,000 บาท โดยมีข้าราชการคนหนึ่งของอำเภอวังวิเศษ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวผู้ต้องหาออกไป