ตรัง - เกษตรกรชาว ต.นาบินหลา อ.เมืองตรัง หันมาปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ทำให้ขายได้ราคาสูงกว่าทั่วไป กก.ละ 5-10 บาท โดยเฉพาะบรอกโคลีพืชเมืองหนาวที่ปลูกได้ราคาสูงถึง กก.ละ 100 บาท
วันนี้ (4 ก.พ.) น.ส.สมพิษ รงรักษ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 3 ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมสามี ซึ่งถือเป็นเกษตรกรต้นแบบที่คิดใหม่ทำใหม่ในการปลูกพืชผักเพื่อจำหน่ายในตลาดให้แตกต่างไปจากเกษตรกรทั่วไป ด้วยการหันมาปลูกพืชผักปลอดภัยสารพิษ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร ที่มีการตรวจสอบวิเคราะห์คุณภาพตั้งแต่ดินน้ำว่า ปราศจากสารพิษและไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในการเพาะปลูก ให้ตกค้างในดินและน้ำ รวมทั้งตรวจสอบรับรองผลผลิตที่ออกมาด้วยว่าปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้พืชผักทุกชนิดที่ออกจากแปลงได้ราคาสูงกว่าพืชผักที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดถึงกิโลกรัมละ 5-10 บาท
ทั้งนี้ สองสามีภรรยาได้นำพื้นที่ทั้งหมด 6 ไร่ แบ่งเป็นปลูกมะพร้าวและปลูกพืชผักหมุนเวียนระยะสั้นต่างๆ ทั้งมะเขือ พริก กวางตุ้ง คะน้า ผักกาด ฟักทอง ข้าวโพด ผักบุ้ง โดยเฉพาะบรอกโคลี ซึ่งเป็นพืชเมืองหนาวที่หลายคนอาจจะคิดว่านำมาปลูกในภาคใต้ไม่ได้ผล เพราะสภาพอากาศทั่วไปจะมีแต่เฉพาะฤดูฝนและฤดูร้อนที่ยาวนาน จนแทบจะไม่ได้สัมผัสฤดูหนาวเลยในแต่ละปี แต่ทั้งคู่ได้แบ่งพื้นที่ประมาณ 2 งานเศษ ปลูกบรอกโคลี ปรากฏว่า ดอกโตสมบูรณ์ น้ำหนักประมาณ 5-8 กรัมต่อต้น และขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 100 บาท แตกต่างจากราคาบรอกโคลีที่ขายทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาทเท่านั้น
น.ส.สมพิษ รงรักษ์ กล่าวว่า พืชผักหมุนเวียนเหล่านี้ตนเองปลูกต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยเฉพาะบรอกโคลี จริงๆ แล้วปลูกง่าย ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนเศษก็เก็บผลผลิตได้ แต่ปลูกได้เพียงปีละครั้งเฉพาะในช่วงที่อากาศหนาว ซึ่งตนจะใช้ปุ๋ยเคมีบ้างตอนที่ต้นเล็กๆ เพื่อกระตุ้นให้เจริญเติบโต แต่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีใดๆ ทำให้ปลอดจากสารเคมี โดยจะเน้นปุ๋ยหมักและน้ำหมักเป็นหลัก จึงมีรสชาติหวาน นุ่ม กรอบ อร่อย และมีสีเขียวน้อยกว่าบรอกโคลีที่ภาคเหนือ จึงทำให้ไม่เหม็นเขียว ซึ่งปีนี้ได้ผลผลิตกว่า 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว และขายได้ราคาดีมากกิโลกรัมละ 100 บาท ทั้งที่ตลาดนัดเกษตรของจังหวัดและตลาดกรีนชินตา