xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” ประกาศพร้อมลงสนามชิงเก้าอี้นายกเมืองป่าตอง พาป่าตองสู่เมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง /อดีตนายกเล็กเมืองป่าตอง ประกาศพร้อมลงสนามสู้ศึกชิงเก้าอี้นายกเมืองป่าตอง พร้อมนำ “ทีมป่าตองฟ้าใหม่”ลงเลือกตั้ง ครบทั้ง 3 เขต ภายใต้นโยบาย “ป่าตองเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”


นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยถึงความพร้อมในการลงสมัครับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล ในวันที่ 28 มีนาคม 2564 นี้ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีหมดลง ซึ่งตนพร้อมที่จะทำหน้าที่นายกฯเมืองป่าตองต่อในสมัยต่อไป โดยครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับทีมที่จะมาเป็นสมาชิกสภาฯ เพราะที่ผ่านมาตนเข้ามาทำงานโดยมีสมาชิกในทีมแค่ 2 คนเท่านั้น ทำให้การทำงานมีปัญหาและอุปสรรค หลายๆโครงการที่อยากจะผลักดันให้เกิดขึ้นก็ไม่สามารถทำได้เพราะไม่ผ่านสภาฯ ซึ่งครั้งนี้ครั้งจะส่งทีมลงสมัครครบทั้ง 3 เขต 18 คน ในนาม “ทีมป่าตองฟ้าใหม่” เพื่อสานต่อนโยบายต่างๆ และสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆในการพัฒนาเมืองป่าตองต่อไป

นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวถึงโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการสำเร็จไปในช่วงที่ทำหน้าที่นายกเมืองป่าตอง ว่า โครงการที่สำเร็จไปแล้ว มีทั้งโครงการที่มีความสำคัญทางด้านจิตใจ โครงการที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น เช่น โครงการพัฒนาน้ำตกวังขี้อ้น โดยทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ ร่วมกับ เอกชน และเครือข่ายต่างๆ จัดซื้อที่ดินแปลงด้านหน้าน้ำตกวังอ้นมาเป็นสมบัติของเทศบาลฯ เพื่อให้ชาวป่าตอง หรือ นักท่องเที่ยว สามารถเข้าไปเที่ยวน้ำตกวังขี้อ้นได้ จากที่ก่อนหน้านี้ทุกคนไม่สามารถเข้าไปใช้น้ำตกวังขี้อ้นได้เนื่องจากที่ดินทางเข้าเป็นของเอกชน หลังจากนั้นเทศบาลฯ ได้จัดสรรงบประมาณไปพัฒนาน้ำตกวังขี้อ้น ซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของชาวป่าตองจากการเสด็จมาเยือนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2502 และทำให้เมืองป่าตองเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของคนป่าตอง รวบรวมความเป็นมาของเมืองป่าตอง ถือเป็นการสืบสานตำนานของเมืองป่าตองให้คงอยู่สืบไป


ด้านการศึกษา ได้ให้ความสำคัญทางการศึกษาของเยาวชนป่าตอง ด้วยการพัฒนาอาคารสถานที่ เตรียมความพร้อมให้กับครู และนักเรียนได้มีกาเรียนการสอนที่มีคุณภาพ โดยได้อนุมัติงบประมาณสร้างโรงเรียนเทศบาลเมืองป่าตอง 5 ชั้น สร้างโรงอาหาร สร้างสนามกีฬาในโรงเรียนเทศบาลเมืองป่าตอง สร้างโรงเรียนอนุบาลป่าตองแห่งที่ 2 พร้อมขยายโอกาสให้เยาวชนป่าตองได้มีโอกาสเรียนใกล้บ้าน ลดภาระผู้ปกครอง ไปจนถึง ม.3 และมีการพัฒนาการเรียนการสอนด้านภาษาให้กับนักเรียนมากขึ้นเพื่อใช้สื่อสารกับชาวต่างชาติที่ป่าตองเป็นเมืองท่องเที่ยว ด้วยหลักสูตร MEP โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลางของคนทั้งโลก และเสริมในส่วนของภาษาเวียดนาม ภาษาพม่า

ด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ที่ผ่านมาได้พยายามทำให้ป่าตองเป็นเมืองปลอดมลภาวะ เป็นเมืองที่มีความร่มรื่น ปลอดภัย สะดวกสบาย ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ป่าตองจึงต้องเป็นเมืองที่สิ่งแวดล้อมดี ได้เร่งแก้ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำเสีย โดยในส่วนของปัญหาน้ำเสียได้มีการของบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมมาร่วมกับงบของเทศบาลในการเพิ่มศักยภาพการบำบัดน้ำเสีย อีก 18,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน 2 โครงการๆ ละ 9,000 ลูกบาศก์เมตร ทำให้ป่าตองมีศักยภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ถึง 39,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน สามารถรองรับน้ำเสียได้ในอีก 10 ปีข้างหน้าถ้าอัตราการเจริญเติบโตของนักท่องเที่ยวอยู่ในระดับนี้

สำหรับปัญหาขยะ เทศบาลเข้ามาจัดเก็บเองบางส่วนและจ้างเอกชนบางส่วน ทั้งกวาด เก็บขน พร้อมๆกับการลดปริมาณขยะ ด้วยการนำขยะเปียกมาทำปุ๋ยคอมโพส จัดทำแปลงผัก สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนลดขยะด้วยการนำขยะที่เป็นขวดพลาสติกมาแลกผัก


การจราจรก็เป็นปัญหาหนึ่งที่เมืองป่าตองต้องเผชิญมาอย่างยาวนาน ส่วนเรื่องการคมนาคมขนส่ง ที่ผ่านมาทางเทศบาลได้พยายามในการแก้ปัญหาด้วยการเข้าไปปรับผิวจราจรเกือบทุกเส้น เหลือเฉพาะถนนในหมู่บ้านและถนนหน้าหาด ซึ่งอยู่ในโครงการที่จะเทผิวจราจรในเร็วๆ นี้ ขยายพื้นที่จุดป่าตองซิตี้เป็นจุดพักรถเวลาเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ปัญหารถติดลดลงทางขึ้น-ลงเขาป่าตองลดลง มีการศึกษาการจราจรของป่าตองใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนถนนราชประชานุเคราะห์จากวันเวย์เป็นทูเวย์ ได้ติดตั้งป้าย บอกสถานที่บอกเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจะได้รู้เส้นทาง

อีกปัญหาคือน้ำท่วม เป็นปัญหาหนึ่งที่คนป่าตองจำทนมานาน ตนก็ได้เข้ามาแก้ไข ด้วยทยอยลอกท่อทุกเส้นที่อุดตันจากปัญหาขยะมีทั้ง ที่นอน เก้าอี้ และอีกสารพัดขยะ ที่ถูกโยนทิ้งลงคลอง ทำให้ท่อระบายน้ำหลายเส้นอุดตัน เป็นอุปสรรคของการไหลของน้ำ จะมีการลอกท่อทุกครั้งหลังฝนหยุดตก ทำให้สามารถระบายน้ำได้ดี มีการเปิดท่อ ขยายท่อเป็น 2 เมตร ทั้งหมด ทำให้ช่วงหลังภาพน้ำท่วมป่าตองค่อยๆหายๆไป ยกเว้นวันที่ฝนตกหนักแล้วมีน้ำทะเลหนุน ซึ่งปัญหาน้ำท่วมเมืองป่าตองจะหายไป จะต้องทำประตูระบายน้ำ ซึ่งขณนี้ทางกรมโยธาฯกำลังเร่งก่อสร้าง

ความปลอดภัยเป็นเรื่องทีสำคัญมากสำหรับเมืองท่องเที่ยว ได้มีการติดตั้ง CCTV เต็มพื้นที่เพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการเฝ้าระวังปัญหาดินสไลด์เมื่อเกิดฝนตกหนัก

การขาดน้ำในช่วงหน้าแล้งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อยู่คู่เมืองป่าตอง ทางเทศบาลได้แก้ปัญหาด้วยการจ้างเอกชนผลิตน้ำ RO เพื่อที่จะเป็นอีกแหล่งน้ำให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้ใช้ ลูกบาศก์เมตรละประมาณ 45-50 บาท


นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวต่อว่า ในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯครั้งนี้ นอกจากการทำงานตามภารกิจของเทศบาลและดูแลชาวป่าตองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว ตนมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำให้เมืองป่าตองเป็น “เมืองท่องเที่ยวยั่งยืน” ซึ่งเมืองท่องเที่ยวยั่งยืนนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เมืองที่มีสิ่งแวดล้อมดี เมืองสะดวก เมืองสะอาด เมืองปลอดภัย ซึ่งต่อจากนี้จะยังมีการขับเคลื่อนให้เมืองป่าตองเดินไปในรูปแบบนี้ และป่าตองเป็นเมืองที่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจ 

โดยหลังจากนี้ป่าตองจะต้องมีการปรับตัวรับนักท่องเที่ยวคนไทยมากขึ้น ด้วยการลดค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าขนส่งต่างๆ เพื่อให้คนไทยสามารถเข้ามาเที่ยวได้ รวมทั้งจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือคนตกงานให้สามารถค้าขายได้ระดับหนึ่ง เช่น งานหรอยริมเล เพื่อประคับประคองกันไปจนกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจเข้ามา การที่ป่าตองจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนได้ ทุกคนจะต้องมีงานทำ มีเศรษฐกิจดี ก็ต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามา เพราะฉะนั้นคิดว่าวันนี้สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพยายาม คือทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเร็วที่สุด เพื่อการประกอบอาชีพของพวกเราจะได้เกิดขึ้นได้ สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องช่วยสร้างบรรยากาศและเงื่อนไขกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลเห็นว่าเขาสามารถที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตได้แล้ว


นอกจากนี้ทางเทศบาลยังได้มีการผลักดันให้ป่าตองเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ซึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เทศบาลเมืองป่าตองได้ลงนาม MOU กับกฎบัตรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โรงแรม และภาคการท่องเที่ยว ทั้งหมด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย Wellness ส่วนที่จะทำให้ป่าตองเป็นเมืองไมซ์ เพื่อเสริมการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงตุลาคม ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาน้อย ทางเทศบาลก็ได้เสนอปรับผังเมืองใหม่เพื่อให้ธุรกิจไมซ์เกิดขึ้นได้ เช่น ขอแก้ความสูงอาคาร เป็นต้น

รวมไปถึงการผลักดันให้ป่าตองมีขนส่งมวลชนสีเขียว โดยเมื่อเร็วๆนี้ ทางเทศบาลได้ลงนาม MOU ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด บริษัท พรีเซ้นต์ เทคโนโลยี จำกัด และกฎบัตรสุขภาพ สมาคมการผังเมืองไทย เพื่อให้สามารถที่จะดำเนินกิจกรรมทั้งในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถEV เคเบิ้ลคาร์ โดยจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ ในการที่พัฒนาเมืองต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น