กระบี่ - กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ปักหลักสร้างที่พัก เพื่อเรียกร้องให้รัฐเร่งจัดสรรที่ดิน ยืนยันไม่ย้ายออก พร้อมแฉมีเจ้าหน้าที่บางคนสมคบนายทุน แอบตัดผลปาล์มขายในพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ถูกยึดคืนแล้ว
วันนี้ (31 ม.ค.) กลุ่มชาวบ้านเรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทานในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ กว่า 200 คน ยังคงปักหลักชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกิน ภายในสวนปาล์มแปลงที่ NO 603 หลังจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.จังหวัดกระบี่ ยึดพื้นที่คืนจากบริษัทเอกชน จำนวน 3,617 ไร่ ตามคำสั่ง คสช.หลังจากตรวจสอบพบว่า บุกรุกพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันมากว่า 20 ปี พร้อมกับสร้างที่พักเพื่อรอภาครัฐทำการจัดสรรที่ดินทำกินให้ตามข้อเรียกร้อง
นายนายขจิต ผลอินทร์ ประธานกลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินกลุ่มสร้างสรรค์สังคมไทย (กระบี่น้อย) เปิดเผยว่า กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ ได้เข้า สร้างบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ของบริษัทสหอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด มากว่า 7-8 ปีแล้ว เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและยึดคืนที่ดินมาเป็นของรัฐ หลังจากตรวจสอบพบว่า เป็นการบุกรุกพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.มากว่า 20 ปี ชาวบ้านได้มีการสร้างที่พักถาวร ประกอบอาชีพทำการเกษตร เพาะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เพื่อรอหน่วยงานของรัฐจัดสรรที่ดินให้ทำกิน หากให้ย้ายออกจากพื้นที่ ทุกคนไม่มีที่ไป และกังวลว่าจะไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินให้ ทั้งที่เป็นกลุ่มที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบจนนำไปสู่การยึดพื้นที่คืนกลับมา ยืนยันจะปักหลักอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไป
นายขจิต กล่าวด้วยว่า สำหรับที่ดิน ส.ป.ก.ที่พวกตนอาศัยอยู่ เป็นพื้นที่ที่ถูกนายทุนฮุบที่ดินปลูกปาล์มน้ำมันมานานกว่า 20 ปี และล่าสุด ทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงมาตรวจสอบพื้นที่และมีการปักป้ายยึดคืนที่ดินจากนายทุนเพื่อนำมาจัดสรรให้แก่คนยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่พบว่านายทุนยังคงเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยไม่สนใจคำประกาศยึดคืนพื้นที่
หากเป็นไปได้ ตนอยากให้มีการล้มต้นปาล์มออก เพื่อไม่ให้นายทุนที่ครอบครองอยู่เดิมเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในระหว่างที่จะมีการจัดสรรให้แก่คนจนไม่มีที่ดินทำกิน อย่างไรก็ตาม ตนยังเป็นห่วงว่าจะได้รับสิทธิ ทุกคนหรือไม่ แต่จะให้พวกตนออกจากพื้นที่ ก็คงจะไม่ออกเพราะไม่รู้จะไปไหน และปักหลักอยู่ในที่ดินมาเกือบ 10 ปีแล้ว
และหลังจากนี้คงจะรอดูท่าที หากว่ารัฐไม่จัดสรรดินทำดินให้ พวกตนคงจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป และอาจจะทำกินในที่ดินเพาะปลูกพืชทันที เพราะไม่แน่ใจว่าหากไม่มีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ดินจะถูกนายทุนเอาคืนไปอีกหรือไม่ เพราะยังมีอีกหลายแปลงที่นายทุนครอบครองผิดเงื่อนไข อยากให้รัฐเอาคืนมาจัดสรร ให้คนจนไม่มีที่ดินทำกินทั้งหมด
สำหรับที่ดินหมดอายุสัมปทานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ยังมีอยู่อีกมากกว่า 7 หมื่นไร่ ที่อยู่ในกำมือของกลุ่มทุน และมีการกอบโกยผลประโยชน์อยู่ขณะนี้ อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเร่งรัดเอาคืนกลับมาแจกคนจนโดยเร็ว