ยะลา - “กลุ่มวัยรุ่นยะลา” ที่โพสต์คลิปลงติ๊กต้อก (TikTok) แสดงถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นอันตราย ล่าสุดเข้ารายงานตัวต่อตำรวจ สภ.เมืองยะลาแล้ว หลังถูกสังคมกดดันอย่างหนัก ขณะที่ ผบก.ยะลา รุดเข้าสอบปากคำด้วยตนเอง
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา กลุ่มของหนุ่มชาวยะลาที่ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงบนแอปพลิเคชั่นติ๊กต้อก (TikTok) จนถูกแชร์ต่อๆ กันออกไปเป็นจำนวนมากถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นอันตรายต่อสังคม
ล่าสุด กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลาแล้ว หลังจากที่ถูกสังคมกดดันอย่างหนัก ซึ่งในเบื้องต้นจากการสอบถามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ทราบว่า ที่ได้โพสต์คลิปลง TikTok นั้น ก็เพื่อความสนุกสนาน และขาดความยั้งคิด ซึ่งที่เดินทางมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้เพื่อชี้แจงถึงสิ่งที่ทำลงไป และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่คิดที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ใด เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม
ทั้งนี้ หลังจากที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลาแล้ว พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้รายงานให้ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และ พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้รับทราบแล้วด้วย
จากนั้นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา จึงได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เพื่อสอบปากคำ และซักถามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวด้วยตนเอง โดยกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ารายงานตัวในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 คน คือ นายโอ้ อายุ 25 ปี นายเอิร์ต อายุ 20 ปี และนายราช อายุ 18 ปี โดยมี นายเอกราช เรืองนุ่น หรือนายหลง อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในกลุ่มได้นำทั้ง 3 คน เข้ารายงานตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีความมั่นคงตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ใช้เวลาในการสอบถาม และซักประวัติประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะอนุญาตให้สื่อมวลชนได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ชี้แจงกับสังคม
นายเอกราช เรืองนุ่น หรือนายหลง ผู้เป็นรุ่นพี่ได้ชี้แจงว่า ต้องขอโทษชาวยะลาที่ทำให้เกิดความสับสน และเกิดความหวาดระแวง ซึ่งกลุ่มเพื่อน และรุ่นน้องทำไปเพราะความสนุกสนาน และขาดความสำนึก โดยที่ความจริงแล้วนั้นกลุ่มเพื่อนๆ ไม่คิดที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ใด และไม่คิดจะแบ่งแยกศาสนา จนทำให้เกิดความแตกแยก เพราะตนเองมีเพื่อนที่เป็นมุสลิมด้วยเช่นเดียวกัน และรักกันมาโดยตลอด
แต่กรณีที่โพสต์คลิปลงไปนั้น เพราะด้วยความคึกคะนอง จนทำให้มีผู้ที่ไม่หวังดีนำคลิปไปตัดต่อใส่ร้ายป้ายสี ทำให้เกิดความสับสน และเกรงว่าจะเกิดความแตกแยกทางศาสนา และสังคม ซึ่งตนเองยืนยันว่ากลุ่มเพื่อนๆ และน้องๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะท้าทายกับใคร หรือก่อเหตุกับผู้ใดทั้งนั้น
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ตนเองยืนยันที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนชาวยะลา และหากมีใครที่มีเบาะแสกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายในสังคม หรือมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน หรือการดำเนินชีวิต ไม่เว้นว่าผู้นั้นจะเป็นลูกหลานของใครก็ตาม ทั้งทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง หรือข้าราชการใด ขอให้แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะดำเนินการเข้าตรวจสอบ หรือใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มดังกล่าว
“อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกลุ่มที่เข้ามารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ในวันนี้ ถือว่าเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยเฉพาะอาวุธปืนที่โชว์ให้เห็นในคลิปนั้น เป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือปืนของเล่น แต่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกประวัติไว้ในฐานข้อมูล และขยายผลไปทำการตรวจสอบที่บ้านพักทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าทั้งหมดนั้นมีเจตนาในการมารายงานตัวด้วยความบริสุทธิ์ใจ”
