พัทลุง - ได้ผลสำเร็จ! 4 ปีของการปล่อย “นกกาบบัว” คืนถิ่นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ล่าสุดพบกลับมาทำรังวางไข่เป็นรุ่น 2 และ 3 แล้ว
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกแห่งแรกของประเทศไทย นอกจากจะมีพืชน้ำ และพืชพรรณนานาชนิดแล้ว ยังมีนกน้ำอีกประมาณ 285 ชนิด ทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพ ซึ่ง “นกกาบบัว” เป็น 1 ในจำนวนนกน้ำที่อพยพจากไซบีเรีย มาอยู่ที่ทะเลน้อย จนกลายเป็นนกประจำถิ่น แต่หลังจากปี 2546 เป็นต้นมา พบว่า นกกาบบัวได้หายสาบสูญไปจากทะเลน้อย สาเหตุอาจจะมาจากถูกรบกวนถิ่นอาศัยจากชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว
ดังนั้น เพื่อให้นกกาบบัว กลับมาเป็นนกประจำถิ่นทะเลน้อยอีกครั้ง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จึงได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์การสวนสัตว์ในพระราชูปถัมภ์ จัดโครงการ “นกกาบบัวคืนถิ่น” เป้าหมาย จำนวน 100 ตัว เพื่อคืนสู่ทะเลน้อย ขณะนี้เริ่มดำเนินการเพาะพันธุ์แล้วที่สวนสัตว์สงขลา และสวนสัตว์ชลบุรี
โดยเมื่อวันนี้ 12 สิงหาคม 2560 ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง นายธนิต หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ที่ 6 สงขลา ในสมัยนั้น ได้เป็นประธานปล่อยนกกาบบัวคืนถิ่นทะเลน้อย จำนวน 12 ตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 โดยมีประชาชน และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เจ้าหน้าเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จ.พัทลุง และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วม
นายสุเทพ พุทธเจริญ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากได้นำ “นกกาบบัว” อายุ 8 เดือน มาพักฟื้นที่ทะเลน้อย จำนวน 12 ตัว เพื่อให้มีความคุ้นชินกับสภาพพื้นที่ และคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว ก่อนจะปล่อยคืนสู่ทะเลน้อยเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งตนเอง และคณะทำงานได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของนกอย่างใกล้ชิดตลอด 4 ปี ตั้งแต่พื้นที่หากิน และทำรังวางไข่ โดยความคุ้นชิน ปัจจุบันนกกาบบัวได้กลับมาทำรังวางไข่บริเวณต้นไม้ใหญ่ ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ปี 2563 ทำรังทั้งหมด 4 รัง ปีนี้ 2564 ช่วงทำรังวางไข่ นกกาบบัวบินมาทำรังที่เดิม และเพิ่มจำนวนรังมากขึ้น นับว่าตลอด 4 ปีของการเฝ้าติดตามดูแล ทำให้นกกาบบัวกลับมาคืนถิ่นทะเลน้อยอย่างถาวรอีกครั้งแล้ว
“นกกาบบัว” จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ มีความสูงขณะยืนประมาณ 90 เซนติเมตร ขนลำตัวมีสีขาว มีลายละเอียดสีดำเหลือบเขียวบนหลัง และมีแต้มสีชมพูอย่างดอกกุหลาบบนปีก และส่วนหลังตอนล่าง อกมีลายสีดำคาด ขนปีก และขนหางจะเป็นสีดำ จะงอยปากจะออกสีเหลือง หนังที่หน้าสีเหลืองเป็นมัน ขาสีน้ำตาลจนถึงสีเกือบแดง จะหากินอาหารจำพวกสัตว์น้ำ โดยการลุยลงไปในน้ำแล้วจุ่มจะงอยปากลงไปหาอาหารตามโคลน ท้องน้ำ หรืออาจหาเหยื่อด้วยการยืนกางปีก ก้มตัวนิ่ง และอ้าปากแช่อยู่ในน้ำ เมื่อเหยื่อผ่านมาก็จะงับทันที ปกติจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ออกไข่ปีละ 1 ครั้งๆ ละ 3-4 ฟองเท่านั้น มีอายุโดยเฉลี่ย 6-10 ปี
