xs
xsm
sm
md
lg

ทหารเกณฑ์เข้าพบผู้ว่าฯ ตรัง ทวงถามความคืบหน้ากรณีถูกซ้อมในค่ายทหาร หลังเรื่องเงียบหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - แม่ควงลูกชายที่เป็นทหารเกณฑ์ และทนายความ เข้าพบผู้ว่าฯ จ.ตรัง สอบถามความคืบหน้ากรณีลูกถูกซ้อมภายในค่ายทหารกองบิน 56 สงขลา จนกลายเป็นคนพิการ และผู้ป่วยจิตเวช แต่เรื่องกลับเงียบหาย

ที่ห้องทำงาน นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นางปพิชญา เอียดนุ่น อายุ 57 ปี พร้อมด้วย พลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม (น้องนุก) อายุ 26 ปี บุตรชาย อยู่บ้านเลขที่ 153/3 หมู่ 11 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง น.ส.สุพรรษา มะเหร็ม ทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และนายรัฐประชา พุฒนวล ผู้ช่วย ส.ส.ปริญญา ช่วยเกตุ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีที่เคยยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 เพื่อให้ประสานไปยังผู้บังคับกองทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 จ.สงขลา ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ พลทหารประจักษ์ เพื่อขอใบปลดประจำการ หลังลูกชายกลายเป็นคนพิการ และวิกลจริต ขณะกลับเข้าไปอยู่ภายในค่าย และรับโทษฐานหนีทหาร เมื่อปี 2561 และจะยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขอให้ตั้งคณะกรรมสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีพลทหารประจักษ์ ถูกทำร้ายร่างกายจนพิการ และวิกลจริตดังกล่าว ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางผู้เสียหายได้ร้องผ่านสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีดังกล่าวเช่นกัน แต่เรื่องผ่านมาแล้วเกือบ 1 ปี พลทหารประจักษ์ ยังไม่ได้รับการปลดประจำการ และยังไม่ได้ความกระจ่างกรณีที่บาดเจ็บสาหัสจนกลายเป็นคนพิการ และวิกลจริต หลังเข้าไปอยู่ภายในค่ายทหารดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางแม่พร้อมด้วยทนายความ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 20 นาที จึงออกมา โดยนายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง บอกว่า เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่า เรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของฝ่ายทหาร ทางจังหวัดไม่มีอำนาจ จึงขอให้ทำหนังสือถึงผู้บังคับการกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 จ.สงขลา โดยตรง โดยทางจังหวัดตรังจะติดตามความคืบหน้าเรื่องเดิมที่เคยร้องเรียนผ่านมาทางศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง เมื่อปีที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อทางครอบครัวของน้องทหารทำหนังสือถึงกองบินที่ 56 ไปแล้ว ทางจังหวัดจะทิ้งระยะเวลาสักระยะหนึ่ง เพื่อให้ทางกองบินได้ดำเนินการ หลังจากนั้น จะติดตามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้บังคับบัญชาของกองบินที่ 56 รายงานให้ครอบครัวได้รับทราบต่อไป ในฐานะที่น้องทหารรายนี้เป็นคนที่มีภูมิลำเนาเป็นคนตรัง


พลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม (น้องนุก) บอกว่า ขณะนี้อาการทางสมองของตนดีขึ้นมากแล้ว ความจำกลับมาแล้ว และจำเหตุการณ์ภายในค่ายได้แล้วว่า หลังจากที่ตนเองหนีทหาร และกลับเข้าไปที่ค่ายกองบิน 56 ตนเองก็ถูกลงโทษภายในเรือนจำของค่าย หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1 เดือน ระหว่างที่ตนเองเข้าห้องน้ำ ก็ถูกผู้คุมซึ่งตนจำชื่อได้ว่า “ป๊อบ” พร้อมนักโทษคนอื่นๆ เข้ามาทำร้ายเตะ ต่อย กระทืบตนด้วยรองเท้าคอมแบ็ท จนขาเจ็บเดินไม่ได้ จนวันหลังตนเองเดินไม่ได้แล้ว เพราะขาหัก เข้าห้องน้ำไม่ได้ จึงนอนติดที่ และปัสสาวะใส่ขวด จึงถูกบังคับให้กินปัสสาวะ และถูกซ้อมอีกครั้ง หลังจากนั้นตนเองถูกซ้อมทำร้ายอีก ส่วนบาดแผลที่ก้นกบตนเองถูกลงโทษให้กลิ้งในบ่อปลา และไปกระแทกกับก้อนหิน จนเกิดเป็นแผลใหญ่ จนต่อมาแผลอักเสบจนกลายเป็นแผลเป็น ซึ่งตนบาดเจ็บสาหัส ทั้งจากบาดแผล และจากการถูกรุมทำร้าย สมองกระทบกระเทือน จึงเพ้อ จำอะไรไม่ได้ ก็ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่เขารักษาตนเองว่าเป็นคนโรคจิต แต่ตนเองตอนเข้าไปใหม่ๆ ไม่ได้เป็นโรคจิต สภาพร่างกายปกติทุกอย่าง แต่ไปบาดเจ็บตามร่างกายจากการถูกซ้อม และสมองกระทบกระเทือน จึงเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ขณะนี้สมองความจำฟื้นมาหมดแล้ว แต่บาดเจ็บที่ขา ยังเดินไม่ได้มากกว่าเดิม ต้องเดินก้าวยาวๆ ก้าวสั้นปกติไม่ได้จะเจ็บ เพราะตอนบาดเจ็บกระดูกร้าว ขาหัก และมีผลมาถึงตอนนี้ ตนเองยังอยากได้ใบปลดประจำการ เดิมเขาบอกว่าจะให้เมื่อเมษายน 2563 แต่ผ่านมาเกือบปีแล้วก็ไม่ได้ และตนเองไม่อยากกลับไปแล้ว กลัวจะถูกซ้อมอีก และอยากทำงานด้วย


ด้านนางปพิชญา เอียดนุ่น แม่ของพลทหารประจักษ์ บอกว่า ร้องเรียนมาแล้วเกือบปี แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ไม่มีคนรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้ใบปลดประจำการ โทร.ไปสอบถามเขานัดว่าจะให้เมื่อเมษายนปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับ สำหรับสภาพน้องตอนนี้ เขาเริ่มจำความได้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา จึงบอกให้เขาเล่าลำดับเหตุการณ์ให้แม่ฟัง รู้สึกเจ็บปวดมาก เสียใจที่ลูกต้องไปเจอกับความเลวร้ายตรงนั้น ลูกชายบอกว่าเขาเคยคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะตอนที่เขานอนบาดเจ็บหนักอยู่ขณะนั้น เขาขอร้องให้ครูฝึกโทรศัพท์มาหาแม่ให้เขา แต่ไม่มีใครแจ้งข่าวให้แม่ เขาท้อจะฆ่าตัวตายด้วย สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือ อยากเรียกร้องความเป็นธรรมจากต้นสังกัด หรือจะต้องมีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งมารับผิดชอบ เพราะตอนนี้เขากลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตแล้ว แต่ตอนเขาไปตอนต้น เขาไปด้วยสภาพร่างกาย จิตใจเป็นปกติทุกประการ แต่ในวันหนึ่งที่แม่ไปรับกลับเขากลับจำแม่ไม่ได้ และต้องมารักษานอนผู้ป่วยติดเตียงกว่า 2 ปี และต้องกลายเป็นคนมีสภาพปัญหาทางจิต และลูกกระทำมาจากในค่ายทหาร จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแล




กำลังโหลดความคิดเห็น