ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภาครัฐ-เอกชนภูเก็ต ร่วมกำหนดแนวทางกระตุ้นท่องเที่ยวรอบใหม่ เอกชนเสนอยกเลิกกักตัวคน กทม.มาเที่ยวภูเก็ต ดึงเที่ยวช่วงตรุษจีน ก่อนเศรษฐกิจดิ่งเหวลึก ชงภูเก็ตโมเดลรอบใหม่ เปิดรับต่างชาติตุลาคมนี้เฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนเท่านั้น คนภูเก็ตต้องได้รับวัคซีนร้อยละ 70 สร้างความมั่นใจทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (22 ม.ค.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมหารือทิศทางเตรียมการในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตในระยะต่อไป โดยมี นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีต ส.ส.ภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายสรายุทธ์ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าภูเก็ต นางเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ภาคเอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อร่วมกันหารือแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
โดยทางภาคเอกชนภูเก็ตได้นำเสนอภูเก็ตโมเดลรอบใหม่ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลังจากนี้ เพราะมองว่าหากปล่อยให้สภาพเป็นแบบนี้เปิดๆ ปิดๆ ล็อกดาวน์ประเทศ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ โดยโมเดลที่เอกชนภูเก็ตเสนอนั้น ภูเก็ตจะเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันนของภูเก็ต โดยจะเริ่มให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงวันชาติจีนและต่อเนื่องไป นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาภูเก็ตได้จะต้องผ่านการฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่นำเชื้อมาแพร่ระบาดที่ภูเก็ต และคนภูเก็ตจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ร้อยละ 70 ของประชากรในภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่าประชาชนชาวภูเก็ตปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะมีระบบติดตามตัวและมีการจัดตั้งกองทุนโดยคิดจากนักท่องเที่ยว เพื่อนำมาเยียวยาให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบหากมีการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
โดยวัคซีนที่จะนำมาฉีดให้คนภูเก็ตนั้น จะเป็นวัคซีนจัดซื้อโดยรัฐบาล การจัดซื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจากการจัดซื้อของภาคเอกชน หากรัฐบาลไฟเขียวอนุญาตให้จัดซื้อได้
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วัคซีนถือว่าเป็นตั๋วใบสุดท้ายและเป็นความหวังสุดท้ายของท่องเที่ยวภูเก็ต เพราะท่องเที่ยวภูเก็ตไม่มีทางออกแล้วในขณะนี้ คนไทยก็ไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้หลังการแพร่ระบาดในระลอก 2 ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นไม่ต้องพูดถึงเลย วัคซีนจึงเป็นความหวังของภาคการท่องเที่ยวภูเก็ต ในการที่จะฟื้นฟูท่องเที่ยว โดยภาคเอกชนในภูเก็ตได้ร่วมกันหารือและคิดว่าแนวทางที่จะส่งเสริมและทางออกในการดึงคนมาเที่ยวภูเก็ตที่เป็นคนต่างชาติ คือ วัคซีน ที่ขณะนี้สามารถผลิตได้แล้วจากหลายประเทศและเริ่มฉีดกันแล้วในหลายประเทศ
สำหรับโมเดลด้านการท่องเที่ยวต่อจากนี้ของภูเก็ตในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เอกชนมองว่ามีความเป็นไปได้ คือ กำหนดที่จะเปิดรับต่างชาติเข้ามาในเดือนตุลาคมนี้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงไฮซีซันในปลายปี ซึ่งในส่วนเดือนตุลาคมเป็นวันชาติจีน เท่าที่ทราบขณะนี้ทางการจีนให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยวยังเมืองที่ปลอดภัยได้ ที่คาดว่าจะมีคนจีนมาท่องเที่ยวอย่างแน่นอนหากเขาเชื่อมั่นว่าเราปลอดภัย และกำหนดว่านักท่องเที่ยวที่จะเข้าภูเก็ตได้นั้นจะต้องเป็นคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น และคนภูเก็ตจะต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของประชากร ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจทั้งคนภูเก็ต และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาว่าจะไม่มารับเชื้อไปจากภูเก็ต และคนภูเก็ตจะได้เกิดความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะไม่นำเชื้อมาแพร่ระบาดอีก
“ภาคเอกชนอยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลว่าแนวทางที่เราคิดนั้นสามารถทำได้หรือไม่ เพราะหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ เปิดๆ ปิดๆ ล็อกดาวน์ไปเรื่อยๆ อย่างที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจะตายกันหมดแล้ว และอยากได้ความชัดเจนในเร็วๆ นี้ เพื่อที่จะได้ทำตลาดตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 2-3 เดือน” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวและว่า
สำหรับตลาดคนไทยนั้นหายไปเกือบทั้งหมดจากการแพร่ระบาดในระลอก 2 ซึ่งทางภาคเอกชนได้พูดไว้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่าเราพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางราชการในทุกเรื่องตั้งแต่วันแรกที่เราพบคนติดเชื้อ จนถึงวันนี้ภูเก็ตเราปลอดเชื้อมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ประกอบกับทาง ศบค.เองก็ได้ผ่อนคลายในหลายเรื่องในกรุงเทพฯ จึงอยากที่จะให้ทางจังหวัดภูเก็ตพิจารณายกเลิกการกักตัว 14 วัน สำหรับคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แต่ให้คงไว้สำหรับ 8 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูง เพื่อให้คนกรุงเทพฯ และคนไทยได้เริ่มเดินทางภูเก็ตอีกครั้งในช่วงตรุษจีนนี้ เพื่อให้ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภูเก็ตได้เดินได้อีกครั้งหนึ่งจากนักท่องเที่ยวคนไทย
ด้าน นางอัญชลี วานิช เทพบุตร กล่าวว่า หากยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวของภูเก็ตในเดือน ก.พ.นี้ ถ้าเป็นต้นไม้ภูเก็ตก็คงจะต้องยืนต้นตายอย่างแน่นอน จากที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย โดยส่วนตัวคิดว่าน่าที่จะเริ่มจากการแก้ปัญหาภายในจังหวัดภูเก็ตก่อน เพื่อให้คนภูเก็ตมีรายได้ขึ้นมาบ้าง เพราะจากข้อมูลของนักวิชาการระบุออกมาว่า รายได้เฉลี่ยต่อหัวคนภูเก็ตในขณะนี้อยู่ที่เดือนละ 1,900 กว่าบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่เข้าสู่ภาวะความยากจน ดังนั้น เราจะต้องเพิ่มรายได้ต่อหัวให้สูงขึ้น โดยดึงคนไทยมาเที่ยวภูเก็ตให้ได้ในเร็วๆ นี้ นั่นก็คือยกเลิกการกักตัวคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แต่ยังคงเข้มในเรื่องของมาตรการต่างๆ ในการยับยั้งการแพร่ระบาด รวมไปถึงจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งหากสามารถทำได้ก็จะช่วยประคับประคองกันต่อไปได้
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ให้เป็นไปตามโมเดลที่เอกชนเสนอ เราจะเปิดเมืองรับต่างชาติอีกครั้งในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นคนที่ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วเท่านั้น และในส่วนของปัญหาหรือแนวทางต่างๆ ที่ต้องดำเนินการในระดับประเทศก็ต้องเสนอไปตามขั้นตอนของระบบราชการซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ขณะที่ นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ระบุว่า ก่อนหน้านี้โรงแรมในภูเก็ตเปิดให้บริการประมาณ 10-20% รับนักท่องเที่ยวคนไทย แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดในระลอก 2 โรงแรมที่เปิดให้บริการได้ทยอยปิดตัวกันแล้ว จากที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา จะมีบ้างเฉพาะโรงแรมระดับห้าดาวที่มีการปรับตัวมารับตลาดคนไทยและยังมีความหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเร็วๆ นี้