ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หมดทางไปต่อ! อดีตพนักงานขับรถทัวร์เจอพิษโควิด-19 เล่นงาน ประกาศขายดวงตาเพื่อหาเงินช่วยครอบครัว หากมีซื้อก็พร้อมจะขายถึงแม้ผิดกฎหมายก็ตาม เพื่อเก็บเงินไว้ให้หลานเรียนต่อ

ขณะนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ทวีป มีพันธ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซส่วนตัว ว่า “ประกาศขายดวงตาหนึ่งข้าง รู้อยู่ว่าผิดกฎหมาย แต่ความจนมันไม่ปรานี ถามว่ามีญาติ มีลูกมั้ย ตอบว่ามี แต่ทุกคนมีภาระ ผมมีกัน 3 คน หมดหนทางคิด หมดทางเดินจริง ผ่านร้อน ผ่านหนาวมานาน จะกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายส่งหลานเรียนหนังสือจนสุดความสามารถ โพสต์ก่อนที่ไม่มีเน็ตจะใช้ กรุณาต่อว่ากันเลย ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน คิดแล้วคิดอีกจึงโพสต์”
หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความดังกล่าว ปรากฏว่า มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมให้กำลังใจ และให้ต่อสู้เพื่อให้ชีวิตเดินหน้าต่อไป
จากการสอบถาม นายทวีป มีพันธ์ อดีตพนักงานขับรถทัวร์ให้แก่บริษัททัวร์จีนแห่งหนึ่ง โดยขับรถทัวร์มา 15 ปี แต่หลังเกิดโควิด-19 ในรอบแรกทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ต้องหยุดขับรถมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และไม่มีรายได้เพียงพอมาเลี้ยงครอบครัว สิ่งที่ต้องการขณะนี้ คือ อยากมีงานประจำทำ งานอะไรก็ได้ เพื่อนำรายได้มาจุนเจือช่วยเหลือครอบครัว
ซึ่งที่อยู่ได้ทุกวันนี้ก็ขับรถรับจ้างได้วันละประมาณ 100 บาท หรือบางวันก็ไม่ถึง 100 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จ่าย และหลานชายที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.5 ส่วนบ้านที่อยู่ปัจจุบันก็เป็นบ้านเช่า แต่ปัจจุบันเจ้าของบ้านก็ให้ความช่วยเหลือได้อยู่อาศัย ซึ่งสงสารเขาเหมือนกัน เพราะบ้านเขาก็ต้องผ่อน หลังจากที่มีข่าวออกไปก็มีคนเอาสิ่งของอุปโภคบริโภคมาให้บรรเทาความเดือดร้อน
“สิ่งที่อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ คือ อยากมีงานทำและมีรายได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งโชคดีว่าตนมีสุขภาพแข็งแรง แต่ภรรยาเป็นทั้งความดันและต้อกระจก ซึ่งหลังจากที่โพสต์ข้อความไปมีเพื่อนโทรศัพท์และส่งข้อความมาให้กำลังใจ แต่เพื่อนในวงการรถทัวร์ภูเก็ตก็แย่กันทุกคน และบางคนเครียดจนเส้นเลือดในสมองตีบก็มีแล้ว” นายทวีป กล่าว
นายทวีป กล่าวยืนยันด้วยว่า หากมีคนต้องการดวงตาก็พร้อมที่จะขายให้ตามที่ได้เขียนโพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนก็รู้ว่ามันผิดกฎหมาย แต่หากได้เงินมาสักก้อน เพื่อเก็บไว้ให้หลานเรียนและกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายที่บ้านเกิด
ขณะนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ทวีป มีพันธ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซส่วนตัว ว่า “ประกาศขายดวงตาหนึ่งข้าง รู้อยู่ว่าผิดกฎหมาย แต่ความจนมันไม่ปรานี ถามว่ามีญาติ มีลูกมั้ย ตอบว่ามี แต่ทุกคนมีภาระ ผมมีกัน 3 คน หมดหนทางคิด หมดทางเดินจริง ผ่านร้อน ผ่านหนาวมานาน จะกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายส่งหลานเรียนหนังสือจนสุดความสามารถ โพสต์ก่อนที่ไม่มีเน็ตจะใช้ กรุณาต่อว่ากันเลย ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน คิดแล้วคิดอีกจึงโพสต์”
หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความดังกล่าว ปรากฏว่า มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมให้กำลังใจ และให้ต่อสู้เพื่อให้ชีวิตเดินหน้าต่อไป
จากการสอบถาม นายทวีป มีพันธ์ อดีตพนักงานขับรถทัวร์ให้แก่บริษัททัวร์จีนแห่งหนึ่ง โดยขับรถทัวร์มา 15 ปี แต่หลังเกิดโควิด-19 ในรอบแรกทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ต้องหยุดขับรถมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และไม่มีรายได้เพียงพอมาเลี้ยงครอบครัว สิ่งที่ต้องการขณะนี้ คือ อยากมีงานประจำทำ งานอะไรก็ได้ เพื่อนำรายได้มาจุนเจือช่วยเหลือครอบครัว
ซึ่งที่อยู่ได้ทุกวันนี้ก็ขับรถรับจ้างได้วันละประมาณ 100 บาท หรือบางวันก็ไม่ถึง 100 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จ่าย และหลานชายที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.5 ส่วนบ้านที่อยู่ปัจจุบันก็เป็นบ้านเช่า แต่ปัจจุบันเจ้าของบ้านก็ให้ความช่วยเหลือได้อยู่อาศัย ซึ่งสงสารเขาเหมือนกัน เพราะบ้านเขาก็ต้องผ่อน หลังจากที่มีข่าวออกไปก็มีคนเอาสิ่งของอุปโภคบริโภคมาให้บรรเทาความเดือดร้อน
“สิ่งที่อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ คือ อยากมีงานทำและมีรายได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งโชคดีว่าตนมีสุขภาพแข็งแรง แต่ภรรยาเป็นทั้งความดันและต้อกระจก ซึ่งหลังจากที่โพสต์ข้อความไปมีเพื่อนโทรศัพท์และส่งข้อความมาให้กำลังใจ แต่เพื่อนในวงการรถทัวร์ภูเก็ตก็แย่กันทุกคน และบางคนเครียดจนเส้นเลือดในสมองตีบก็มีแล้ว” นายทวีป กล่าว
นายทวีป กล่าวยืนยันด้วยว่า หากมีคนต้องการดวงตาก็พร้อมที่จะขายให้ตามที่ได้เขียนโพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนก็รู้ว่ามันผิดกฎหมาย แต่หากได้เงินมาสักก้อน เพื่อเก็บไว้ให้หลานเรียนและกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายที่บ้านเกิด