xs
xsm
sm
md
lg

จบด้วยดี!! หนุ่มหัวร้อนขอโทษผู้เสียหายไม่ติดใจขอแค่อย่ามาตามทำร้ายก็พอใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์






สุราษฎร์ธานี - ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นกาวใจเคลียร์ปัญหาระหว่างหนุ่มหัวร้อนใช้หมวกกันน็อกทำร้ายสาวร้านสะดวกซื้อ หลังขอให้ลงชื่อก่อนเข้าร้าน สุดท้ายยอมขอโทษ ด้านตำรวจปรับ 400 บาท แล้วปล่อยตัวไป

จากกรณีที่มีการแชร์ภาพกล้องวงจรปิดเหตุการณ์หนุ่มหัวร้อนใช้หมวกกันน็อกฟาดหน้าสาวร้านสะดวกซื้อสาขาตลาดกอบกาญจน์ หรือตลาดแม่ครู ถนนตลาดล่าง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดยผู้เสียหายเป็นพนักงานร้าน โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และทราบผู้ก่อเหตุคือนายจิรวัฒน์ สิทธิฤทธิ์ 40 ปี

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.มืองสุราษฎร์ธานี ได้เรียกคู่กรณีทั้งคู่มาไกล่เกลี่ยและสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และฝ่ายชายผู้ก่อเหตุคือนายจิรวัฒน์ ยอมรับทุกกรณี และได้กล่าวขอโทษ น.ส.ขนิษฐา เป็นใจเย็น อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย พร้อมบอกว่าวันเกิดเหตุเป็นการเข้าใจผิดซึ่งความจริงได้พูดกับแฟนสาวว่าถ้าให้ลงชื่อไม่ต้องซื้อ ไม่ได้ว่ากล่าวผู้เสียหายและไม่เข้าใจการปฏิบัติของร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ เพราะปกติหากเข้าร้านสะดวกซื้อสาขาอื่นจะใช้เครื่องสแกนวัดไข้โดยใช้ฝ่ามือ ไม่ได้ลงชื่อเหมือนสาขานี้ และตอนนั้นเข้าใจว่าผู้เสียหายด่าจึงเกิดการโต้เถียงขึ้นและขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นขอให้ผู้เสียหายสบายใจได้

นายจิรวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อคลิปเผยแพร่ออกไปมีผลกระทบต่อการทำงานของตนเองมาก และยอมรับว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบและยอมรับผิดไม่ได้ตั้งใจจะไปทำร้ายเขา ซึ่งเข้าใจผิดว่าตนพูดจาข่มขู่จะทำร้าย ในเมื่อปรับความใจกันแล้วก็ไม่ติดใจอะไร

ขณะที่ น.ส.ขนิษฐา เป็นใจเย็น ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อปรับความเข้าใจกันคู่กรณีกล่าวขอโทษ ตนก็ไม่ติดใจเอาความอะไร และสบายใจขึ้นไม่ต้องวิตกกังวลว่าเขาจะหวนกลับมาทำร้าย จะได้ทำงานด้วยความสบายใจ

ด้าน พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คดีนี้ นายจิรวัฒน์ ได้ใช้หมวกกันน็อกทำร้ายแต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อกายและจิตใจ และคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้มาทำการปรับความเข้าในกันแล้ว โดยพนักงานของร้านสะดวกซื้อจำเป็นที่จะต้องควบคุมอย่างเคร่งครัดต่อมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนทางผู้ใช้บริการไม่รู้ว่าพื้นที่ย่านชุมชนตลาดล่างเป็นพื้นที่ควบคุมอย่างเข้มงวด จึงมีปากเสียงกันขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดการทำร้ายร่างกายไม่ถึงเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ เมื่อผู้เสียหายยินยอมทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถปรับได้ ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนได้สั่งปรับในอัตรา 400 บาท และอบรมให้ร่วมมือกับทางราชการในการควบคุมป้องกันมาตรการของทางจังหวัดก่อนปล่อยตัวไป


กำลังโหลดความคิดเห็น