xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมจับช้าง “ไข่นุ้ย” ย้ายออกนอกพื้นที่ หลังมาอาศัยอยู่ในสวนของชาวบ้านไม่ยอมกลับป่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านลงมติเรียกร้องให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จับย้าย “ไข่นุ้ย” ช้างป่าวัยรุ่นออกไปจากชุมชน หลังมาอาศัยอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมไม่ยอมกลับป่า ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งถึงกับร่ำไห้ด้วยความผูกพัน

ปัญหาช้างป่าวัยหนุ่มออกจากป่ามาอาศัยอยู่ในชุมบ้านเก้ากอ บ้านชุมขลิง หมู่ 2 และหมู่ 6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช กำลังกลายเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดชาวบ้านได้รวมตัวกันมีมติเรียกร้องให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หาทางจับย้ายช้างป่าตัวนี้ออกนอกพื้นที่

ล่าสุด ที่ศาลาชุมชนบ้านเก้ากอ หมู่ 2 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นายเกรียงศักดิ์ รักษ์ศรีทอง นายอำเภอพรหมคีรี นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 สัตวแพทย์กรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ได้เข้าประชุมร่วมกับชาวบ้านเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาช้างป่า ที่รู้จักกันในชื่อ “ไข่นุ้ย” ช้างป่าหนุ่มอายุประมาณ 7 ปี ออกจากป่ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ชุมชนของชาวบ้าน จนสร้างความหวาดกลัว ส่งผลกระทบต่่อวิถีชีวิต ไม่สามารถทำการเกษตรกรรมได้ โดยเฉพาะการกรีดยางพารา


อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าช้าง “ไข่นุ้ย” เป็นน้องชายของช้างงางาม มีผิวสีนิลทั้งตัว ที่ถูกพบเมื่อปี 2561 ที่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่ามีลักษณะถูกต้องตามคชลักษณ์ช้างสำคัญที่เรียกว่าช้างตระกูล “วิษณุพงศ์” ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ทั้งยังมีความเชื่อสืบทอดต่อกันมาว่า ช้างป่าบนเทือกเขาหลวง เป็นสายตระกูลช้างศึกของเมืองนครศรีธรรมราช ที่หลังจากเสร็จศึกจะถูกปล่อยคืนเข้าป่า จึงมีลักษณะงดงามตามคชลักษณ์สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

โดยการประชุมร่วมของชาวบ้าน และทางการ ในที่สุดชาวบ้านได้มีมติเรียกร้องให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ดำเนินการหาพื้นที่อาศัยให้ช้างป่าไข่นุ้ยใหม่ โดยการจับแล้วเคลื่อนย้ายไป แม้ชาวบ้านบางรายจะเสนอว่าขอให้มีการจับไว้เฉพาะที่ แล้วช่วยกันเลี้ยงไว้แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากอาจขัดต่อกฎหมาย


นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เปิดเผยข้อมูลว่า จะต้องสำรวจพื้นที่ปลายทางก่อนว่าพื้นที่ใดมีความพร้อมบ้าง ต้องไกลจากจุดเดิมมากกว่า 100 กิโลเมตร และต้องมีช้างป่าอยู่ด้วย ซึ่งต้องไปลุ้นกันว่าช้างป่าโขลงใหม่จะยอมรับหรือไม่ ซึ่งต้องขอเวลาในการหาข้อมูลอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ในห้วงเวลานี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ระวังร่วมกับชาวบ้านไปก่อน

อย่างไรก็ตาม นายสมพร ทองเกื้อ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่มีความผูกพันกับช้างไข่นุ้ย ซึ่งพบเห็นตั้งแต่ยังเป็นช้างวัยเด็กจนเข้าสู่วัยรุ่น และคอยเดินตามหาช้างไข่นุ้ยร่วมกับเจ้าหน้าที่ เมื่อรู้ว่ามีแผนที่จะย้ายช้างไข่นุ้ยออกจากพื้นที่ถึงกับร่ำไห้ออกมา พร้อมทั้งบอกว่ามีความผูกพันกับช้างป่าตัวนี้มากเหมือนกับเป็นลูกหลานคนหนึ่งในครอบครัว ไม่เคยถูกไล่ทำร้าย หากมีการจับย้ายช้างไข่นุ้ยออกจากพื้นที่จริงจะไม่ขอมีส่วนร่วมใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากความรัก และผูกพันที่มีต่อกันมาโดยตลอด




กำลังโหลดความคิดเห็น