พัทลุง - คณะกรรมการโควิด-19 พัทลุง ประชุมเตรียมตั้งด่านตรวจคัดกรองบุคคลเดินทางเข้าจังหวัดพัทลุงทั้ง 3 เส้นทางหลัก พร้อมกำชับให้ทุกอำเภอเฝ้าระวัง และประเมินความเสี่ยงแรงงานต่างด้าว
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ห้องประชุมอิรวดีชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุง ติดตามประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง
ซึ่งล่าสุด ในพื้นที่จังหวัดพัทลุงยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วย และยังคงกำหนดมาตรการคุมเข้มทุกพื้นที่ ตรวจเข้มแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการทุกพื้นที่ การเฝ้าระวังทุกสถานที่เสี่ยง หรือสถานที่จุดรวมตัวของคนจำนวนมาก พร้อมวางมาตรการเผชิญเหตุกรณีมีการแพร่ระบาดของโรค บุคคลที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ใช้สถานที่ที่ อปท.กำหนด และหากเกินกำลังของ อปท.ให้ใช้สถานที่ที่อำเภอกำหนดกักตัว 14 วัน
ล่าสุด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงเตรียมตั้งด่านตรวจคัดกรองขาเข้าจังหวัดพัทลุง 3 ด่านตามเส้นทางหลัก ได้แก่ ด่านคัดกรอง อำเภอป่าพะยอม เส้นทางขาเข้ามาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอศรีนครินทร์เส้นทางขาเข้ามาจากจังหวัดตรัง และอำเภอป่าบอน เส้นทางขาเข้ามาจากจังหวัดสงขลา
นอกจากนั้น กำชับให้ทุกอำเภอเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงแรงงานต่างด้าว และเตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับความเสี่ยงตามกรอบแผนการบริหารจัดการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทุกส่วนราชการและทุกหน่วยงานมีการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาติดต่อราชการ จัดตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ จุดบริการเจลล้างมือ คัดกรองก่อนเข้าพื้นที่รับบริการ เพื่อเป็นแบบอย่าง ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนต้องใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” กำหนดกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นพบ อสม. ผู้นำชุมชนในท้องที่ทันที
ทางด้าน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เผยว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดพัทลุงยังไม่พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ แต่ใครเข้ามาในพื้นที่ต้องมีการประเมินเป็นรายบุคคล ไม่เหมารวมว่าถ้ามาจากสีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงแล้วไม่ให้เข้าพื้นที่ เพราะไม่ใช่เป็นการล็อกดาวน์จังหวัดเหมือนกับการแพร่ระบาดระลอกแรกที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างมาก
สำหรับบุคคลที่จำเป็นต้องเข้ามานั้นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดพัทลุงอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ และพบ อสม. ผู้นำชุมชนในท้องที่ทัน อีกทั้งพร้อมกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน
