สตูล - ชาวชุมชนบ้านจงหัว อ.เมืองสตูล ร้องสื่อไร้หน่วยงานเหลียวแลช่วยแก้ปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ขณะที่ปลัดเทศบาลเมืองสตูล เผยที่ดินติดกรรมสิทธิ์ แนะให้เข้าพบเจ้าของ และประสานเบื้องต้นหากต้องการอุทิศที่ดิน
ที่ถนนสมันตประดิษฐ์ ซอย 4 (ชุมชนบ้านจงหัว) ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ชาวบ้านในซอยแห่งนี้ต้องทุกข์ทนกับปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อที่ซ้ำซากมานานหลายชั่วอายุคน ทั้งที่เป็นชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองสตูล ปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านที่นี่ สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจถึงการไม่ได้รับการเอาใจใส่ของผู้บริหารท้องถิ่น ทั้งที่อยู่อาศัยกันไม่น้อยกว่า 10 ครัวเรือน ร่วม 60 คนที่ต้องใช้เส้นทาง 600 เมตรที่ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อโดยไม่มีใครมาเหลียวแล และจริงใจในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ทำให้ชาวบ้านต้องหาหนทางแก้ปัญหากันเอง
ซึ่งนอกจากเด็กๆ ที่ต้องเดินเท้าไปโรงเรียนไม่สามารถเดินเท้าได้ในยามฤดูฝน ด้วยโคลนน้ำขังเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว สินค้าการเกษตรก็ต้องใช้เส้นทางนี้ในการขนออกสู่ภายนอก ผู้เฒ่าผู้แก่จะเดินเหินออกกำลัง สัญจรไปมาก็ไม่สะดวก อันตรายหากหกล้มก็ต้องรักษากันอีก เป็นอยู่อย่างนี้ที่ชาวบ้านแห่งนี้ต้องเผชิญชะตากรรมความลำบาก ทั้งที่ความเจริญตามชนบทต่างๆ เส้นทางยังดีกว่าเสียอีก
นางประนอม หงษ์บิน อายุ 56 ปี ข้าราชการชั้นผู้น้อย อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ไม่น้อยกว่า 30 ปี กล่าวว่า มาอยู่ใหม่ๆ เป็นอย่างไร ปัจจุบันก็เป็นอย่างนั้น จะใช้รถใช้ถนนขับไปทำงานยังลำบาก ไม่ต้องพูดถึงคนที่ใช้รถจักรยานยนต์ หรือนักเรียนที่ต้องเดินเท้าไปโรงเรียน ก็เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปตามๆ กัน ยิ่งช่วงฝนชุกทางภาคใต้ลำบากสุดๆ จะไม่ทน ต้องร้องผ่านสื่อช่วยกระทุ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ปัญหาให้อย่างจริงจังเสียที ทางชาวบ้านเองก็ไม่ไหวที่จะแก้กันเอง ลงทุนหาหินมาถมกันเองราคาเกือบแสนบาทก็ทำมาแล้ว จะทำอีกก็ไม่ไหว ยิ่งเศรษฐกิจโควิด-19 ก็ไม่มีเงินมากพอมาถมที่ถนนอีก แม้เส้นทางนี้จะตัดผ่านที่ดินเอกชน แต่เขาเคยอนุญาตให้ถมทำถนนได้ หรือจะหาหนทางวิธีการใดเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน อยากให้ทางเทศบาลเมืองสตูล ลงมาช่วยเหลือจัดการให้ด้วย จะใช้วิธีการใดก็ได้เพราะชาวบ้านจะไม่ทนกับปัญหาที่เกิดขึ้นอีกแล้ว
นายเอนก อิงคะกุล อายุ 64 ปี กล่าวว่า ถนนเส้นนี้ใช้มาหลายชั่วอายุคนแล้ว เป็นดินของเอกชนที่ตัดผ่าน ชาวบ้านเองเคยไปพูดคุยขอถมให้เส้นทางใช้สะดวกเขาก็อนุญาต แต่อยากให้ทางการไปพูดคุยเจรจาให้เป็นรูปธรรม จะเวนคืนหรือจะใช้วิธีการใดๆ เพื่อให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนพื้นที่อื่นบ้าง เพราะมีเพียงเส้นทางเดียวที่ชาวบ้านต้องสัญจรไปมา ไม่มีเส้นทางอื่นให้ชาวบ้านได้เดินทางเข้าออก นอกจากปัญหาถนนที่ชาวบ้านสุดจะทนอยากให้เร่งแก้ไขแล้ว ปัญหาไฟฟ้าที่ติดตั้งดูไม่ได้มาตรฐาน หวั่นจะเกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร และไหนจะปัญหาน้ำประปาที่ไม่มี ต้องใช้น้ำบ่อที่ขุ่น และมีกลิ่น ซึ่งชาวบ้านชุมชนแห่งนี้ต้องประสบพบเจอ อยากวอนขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ด้วย
ด้าน นายสมชาติ พรหมโกศรี ปลัดเทศบาลเมืองสตูล ระบุว่า จากเหตุดังกล่าวในส่วนของเทศบาลเมืองสตูล ได้ตั้งเทศบัญญัติไว้แล้วในปีงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2564 ซอย 4 บ้านป้าเรณู (ชุมชนจงหัว 1 สาย) เป็นการก่อสร้างถนนคอนกรีตบนถนนสาธารณะที่สิ้นสุดโครงการ แต่จุดที่ชาวบ้านร้องทุกข์นั้นเป็นที่ดินส่วนบุคคล ซึ่งมีจำนวน 4 ราย ที่ครอบครองอยู่ ถนนสายดังกล่าวเทศบาลเมืองสตูลไม่ได้ทอดทิ้ง โดยนายกฯ ได้กำหนดนโยบายไว้ชัดเจนให้แก้ปัญหาให้ชาวบ้านโดยเร็วที่สุด แต่บริเวณดังกล่าวกลับพบว่าติดกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนบุคคล โดยแนวทางแก้ปัญหาขณะนี้ทางประธานชุมชนบ้านหัวทางได้เข้ามาพบกับทางเทศบาลเมืองสตูลแล้ว และได้ชี้แนะให้เข้าไปพบปะกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน เป็นการประสานในเบื้องต้นว่าหากต้องการอุทิศที่ดิน ก็ขอให้เชิญทุกภาคส่วนมาประชุมร่วมกันเพื่อจะได้ตอบปัญหาต่างๆ ที่มีความคลางแคลงใจกันอยู่ เพื่อให้การแก้ปัญหาดังกล่าวแก้ไขไปได้โดยเร็วที่สุด
ซึ่งในส่วนของทางเทศบาลเมืองสตูล มีงบประมาณเพียงพอที่จะเข้ามาช่วยเหลือปัญหาดังกล่าว เพียงแต่ให้มีการอุทิศที่ดินให้ก็สามารถดำเนินการได้เลยในทันที แต่ปัจจุบันทางเทศบาลเมืองสตูลเองให้กองช่างไปดูแลเป็นการเบื้องต้นได้เท่านั้น ไม่สามารถจะดำเนินการเป็นถนนที่ถาวรได้ แต่ในช่วงฤดูฝนหรือน้ำหลาก ทางเทศบาลฯ เองได้นำวัสดุไปช่วยเป็นการเบื้องต้น ต้องมีการขออนุญาตกับเจ้าของที่ดินด้วยในการเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางนายกฯ เองจึงได้มอบหมายให้ประธานชุมชนจงหัว พูดคุยกับทางเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อจะได้แก้ปัญหาดังกล่าวให้ได้ยุติลงโดยเร็วที่สุด
ปลัดเทศบาลเมืองสตูล ยอมรับด้วยว่า ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่มีมาช้านาน และมีการเปลี่ยนมือของกรรมสิทธิ์ที่ดินจากรุ่นสู่รุ่น ด้านนายกเทศมนตรีฯ มอบหมายให้กองช่างได้ประสานงานร่วมกับชุมชน ซึ่งต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการแก้ไข เนื่องจากเป็นเรื่องของประชาชน 2 ฝ่าย คือฝ่ายผู้ได้รับความเดือดร้อน และผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
