xs
xsm
sm
md
lg

มัสยิดกลางยะหายัน “ฮูกมบากัต” ช่วยจัดระเบียบสังคม ใช้มาปีกว่ายังไม่เคยจับใครแต่งงาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกลาง อ.ยะหา ชี้กฎ “ฮูกมบากัต” แก้ปัญหาสังคมได้จริง ประกาศใช้มาปีกว่า ยังไม่เคยจับหญิง-ชายใดแต่งงาน ยันไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร สนง.ยุติธรรม-คณะกรรมการกลางจังหวัดยะลาเห็นชอบแล้ว

วันนี้ (3 ม.ค.) กรณีที่ผู้กำกับการ สภ.ยะหา จ.ยะลา ออกประกาศใช้มาตราการ “ฮูกมบากัต” เพื่อนำร่องจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนหญิง-ชายที่มิใช่สามีภรรยา ซึ่งประพฤติตนไม่เหมาะสมและขัดกับหลักศาสนาอิสลาม โดยร่วมมือกับผู้นำศาสนาและคณะกรรมการประจำมัสยิดกลาง อ.ยะหา รวมถึงผู้นำชุมชนในพื้นที่ จนประเด็นดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและสอบถามถึงการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตามหลักรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไรนั้น

ร.ต.อ.อนุชา แวดอยี กรรมการมัสยิดกลางยะหา เปิดเผยว่า กฎระเบียบ 4 ฝ่าย “ฮูกมบากัต” เริ่มใช้เมื่อ 28 ธ.ค.2562 ตั้งแต่ใช้มาจะจับมาไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายก่อน ครั้งแรกให้คำตักเตือน เรียกผู้ปกครอง ผู้ดูแล ผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอิหม่าม เพื่อมารับทราบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เสียชื่อเสียง

“ตั้งแต่ใช้มาตรการดังกล่าวมา 1 ปี ยังไม่มีการจับหนุ่มสาวคู่ใดแต่งงาน สำหรับวัยรุ่นต่างศาสนิกก็จะใช้กฎเดียวกันนี้ การดำเนินการตลอดปีที่ผ่านนั้นได้ประกาศและประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครอง ผู้นำท้องที่ ให้รับทราบโดยทั่วกันก่อนนำมาใช้ เพื่อจัดระเบียบสังคม อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในพื้นที่คอยสอดส่องดูแลด้วยเช่นกัน” ร.ต.อ.อนุชา กล่าว

ร.ต.อ.อนุชา ระบุว่า มัสยิดกลาง อ.ยะหาได้เล็งเห็นความสำคัญของชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ที่มารวมกลุ่มจับคู่อาจไม่ใช่สามีภรรยา ซึ่งสร้างความลำบากใจให้ชุมชน ผู้ปกครอง ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เบาบางไปได้ใช้แนวคิดหลักยุติธรรมทางเลือกกฎระเบียบชุมชนเป็นกรณีพิเศษ ใช้ 4 ฝ่ายเข้าร่วมเป็นต้นแบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนอยู่ในระเบียบ จารีตประเพณีศาสนา ห่างไกลยาเสพติด ลดแรงเสียดทานการชักนำของผู้ไม่หวังดี ลดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

“ยืนยันว่าเราไม่ได้ละเมิดสิทธิ ถ้าพูดคุย อย่างน้อยต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วย ส่วนข้อบังคับนี้ได้กำชับหนักแน่น ระเบียบนี้ใช้กับมุสลิมเท่านั้น เพื่อปรามการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสม ผลตอบรับที่ผ่านมา ชาวบ้านบอกว่าดีขึ้นมาก เกิน 50% การมั่วสุม หรือแอบอยู่กันตามลำพังลดลงจนแทบจะไม่มี” กรรมการมัสยิดกลางยะหา กล่าว

ร.ต.อ.อนุชา ระบุว่า ในส่วนของการห่วงใยเรื่องของการที่อาจจะมีผู้แอบแฝงผู้ไม่หวังดีจะนำมาตรการดังกล่าวไปข่มขู่เรียกทรัพย์ผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น คณะกรรมการที่กำหนดมาตรการดังกล่าวมีรายชื่ออยู่ชัดเจน หรือสอบถามไปยัง สภ.ยะหา ได้ว่า ผู้ที่แอบอ้างนั้นมีรายชื่ออยู่ในคณะกรรมการหรือไม่ และหากพบหรือมีเบาะแสว่าผู้ใดแอบอ้าง ก็จะดำเนินการแจ้งความเอาผิดต่อผู้นั้นทันที อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งมาตรการดังกล่าวถือเป็นการนำร่องในพื้นที่ และมีการขอคำแนะนำจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาแล้ว และเห็นชอบให้ดำเนินการตามความเหมาะสมได้


กำลังโหลดความคิดเห็น