นครศรีธรรมราช - ช้างป่าวัยหนุ่มป่วนหมู่บ้านใน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เปลี่ยนวิถีชีวิต บุกอาศัยในชุมชนร่วมกับพื้นที่เกษตรกรรม และไม่ยอมกลับเข้าป่า ชาวบ้านเดือดร้อนนั่งล้อมวงคุย จ่อร้องปลัดกระทรวงทรัพย์ช่วยหาทางแก้ไข
วันนี้ (30 ธ.ค.) ชาวบ้านในพื้นที่บ้านวังลุง บ้านเก้ากอ หมู่ 2 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวสวนยางพารา และสวนผลไม้ กำลังได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 7 ปี โดยช้างตัวนี้เปลี่ยนวิถีชีวิตไม่ยอมอาศัยอยู่ในป่า กลับออกมาใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านมาหลายเดือนติดต่อกัน ทั้งยังมาสร้างความสัมพันธ์ เป็นเพื่อนกับ “สีดอนำโชค” ช้างเลี้ยงของ นายสมชัย หยูทองคำ ควาญช้างในพื้นที่ จนเจ้าของสีดอนำโชคไม่สามารถนำช้างของตัวเองไปทำงานเช่นปกติได้
ขณะเดียวกัน ผู้นำท้องที่ และชาวบ้านในพื้นที่หลายสิบคนได้ร่วมกันล้อมวงคุยหาทางแก้ไขปัญหา เนื่องจากผู้ที่ต้องกรีดยางพาราไม่สามารถกรีดยางได้ตามปกติ เพราะเกรงว่าจะถูกช้างป่าหนุ่มคึกคะนองตัวนี้ทำร้าย และในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านยังต่างเป็นห่วงว่าช้างตัวนี้จะถูกทำร้ายด้วย ซึ่งต่างคอยระมัดระวังจนไม่สามารถประกอบอาชีพตามวิถีชีวิตได้ ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง และชาวบ้านต่างพากันหาวิธีแก้ไขปัญหาทุกทางแล้ว แต่ช้างตัวนี้ก็ไม่ยอมกลับเข้าป่า และกลับใช้ชีวิตในชุมชนอย่างเป็นปกติ ทั้งยังคุ้นเคยกับชาวบ้านมากขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านเก้ากอ หมู่ 2 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี เปิดเผยว่า สภาพตอนนี้ชาวบ้านต้องนึกถึงปากท้องที่ต้องอยู่ให้ได้ แต่ปัญหาที่สะท้อนคือ ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร ทางอุทยานฯ พยายามช่วยแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ชาวบ้านเริ่มรับสภาพไม่ได้ เนื่องจากต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหารายได้ เนื่องจากมีอาชีพที่ต้องกรีดยาง และนี่คือสภาพปัญหา
ส่วนช้างป่าเพศผู้ตัวนี้ ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า จากลักษณะมีอายุราว 7-8 ปี เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งน่าเชื่อว่าเมื่อเริ่มเป็นหนุ่ม ช้างเพศผู้จะถูกขับออกจากฝูง ช้างตัวนี้จึงออกจากป่ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม พบว่า ช้างตัวนี้มีลักษณะงดงาม คล้ายกับตัวที่เคยตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งตัวก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นช้างที่ต้องตามคชลักษณ์มงคล เข้าข่ายช้าง “ตระกูลวิษณุพงศ์” ส่วนตัวที่เข้ามาอาศัยในหมู่บ้าน ปัจจุบันมีลักษณะคล้ายคลึง น่าจะเป็นตัวน้องของตัวที่เคยถูกพบเห็น และเป็นที่สนใจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ นายสมชัย หยูทองคำ ควาญช้างเจ้าของ “สีดอนำโชค” ช้างเลี้ยงที่ถูกช้างป่าเชือกนี้เข้ามาผูกพันจนกลายเป็นเพื่อนกันอย่างน่าพิศวง เปิดเผยว่า มันมาผูกพันได้อย่างน่าแปลกใจ ปกติช้างของตนไม่ค่อยเข้ากันได้กับช้างตัวอื่น ส่วนวิธีแก้ไขในขณะนี้นั้นทำได้ยาก เพราะติดขัดกับข้อกฎหมาย พูดได้แต่ในทางปฏิบัติทำไม่ได้ ชาวบ้านต่างเดือดร้อนเมื่อออกไปตัดยาง และไปเจอช้างต่างไม่รู้ว่าจะเจอดีเจอร้าย ปรี่เข้ามาไม่รู้จะถึงตัวหรือไม่ หรือเราจะหนีพ้นหรือไม่ ถ้าไปโดนเอาจริงๆ เราก็จบชีวิต โดยส่วนตัวนั้นไปแอบดูแอบมองไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อจวนตัวก็ต้องหนีเอาตัวรอด ต้องหาทางหนีทีไล่กันเอง แต่ยอมรับว่าช้างตัวนี้น่าเอ็นดู และต้องยอมรับว่าช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง มีบุญคุณกับเรา แต่ชาวบ้านเดือดร้อนเราก็ต้องยอมรับ
ส่วนข้อสรุปในการหารือของชาวบ้านนั้นได้เตรียมทำหนังสือด่วน ผ่านทางอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ ส่งไปยัง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากขณะนี้เกินกำลังของชาวบ้าน และหน่วยงานในพื้นที่แล้ว