ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายกเล็กเมืองป่าตองเผย เศรษฐกิจป่าตองเมืองท่องเที่ยวระดับโลกไม่ขยับ คนไทยยังมาเที่ยวน้อย เมืองป่าตองไม่ตอบไลฟ์สไตล์คนไทย โรงแรม ร้านค้าส่วนใหญ่ยังปิด ต้องรอต่างชาติกลับคาดอีก 2 ปี เศรษฐกิจถึงจะพลิกฟื้น ส่วนโรงแรมที่เปิดแล้วต้องปรับตัวลดต้นทุน เพื่อแบกรับภาระขาดทุนให้น้อยสุด
น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจของเมืองป่าตอง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ว่า เศรษฐกิจของเมืองป่าตองไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตอย่างคึกคักในช่วงวันหยุดยาว โดยเฉพาะย่านเมืองเก่า เขตตัวเมืองภูเก็ต คึกคักมากในช่วงวันหยุดยาว ทั้งนี้เนื่องจากคนไทยยังมาเที่ยวป่าตองน้อยมาก จากสภาพเมืองป่าตองในปัจจุบันนี้ ที่โรงแรม ร้านค้าต่างๆ ยังเปิดให้บริการน้อยมาก ประกอบกับร้านค้าต่างๆ ในป่าตองไม่ตอบไลฟ์สไตล์ของคนไทยมากนัก ร้านค้าส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 95 เปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยวป่าตองน้อยมาก
“จากการสำรวจพบว่า ร้านค้า ร้านอาหารริมหาดป่าตอง ตลอดถนนสายทวีวงศ์ ซึ่งเป็นถนนริมหาดป่าตอง เปิดให้บริการน้อยมาก ประมาณ 5-6 ร้านเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังปิดให้บริการ ส่วนโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วมีประมาณ 5,000 ห้อง แต่อัตราเข้าพักของนักท่องเที่ยวเท่าที่สอบถามจากผู้ประกอบการน้อยมาก อยู่ประมาณ 5-10% ของห้องพักที่เปิดให้บริการเท่านั้น” นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวและว่า
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ ผู้ประกอบการไม่รู้ว่าจะเปิดทำไม เปิดไปก็มีแต่ขาดทุน ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระขาดทุน จึงยังไม่เปิดให้บริการในขณะนี้ จึงทำให้สภาพเมืองป่าตองไม่คึกคัก ไม่ต่างอะไรจากเมืองร้าง
น.ส.เฉลิมลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของตนซึ่งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่ ต้องการที่จะให้โรงแรมและร้านค้าต่างๆ ในป่าตองเปิดให้บริการมากขึ้น เพื่อทำให้เมืองมีสีสันและคึกคักขึ้น เพราะหากเมืองอยู่ในสภาพที่เหมือนเมืองร้างก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวไม่มาก็จะยิ่งทำให้เมืองเงียบเหงามากขึ้นไปอีก พร้อมกับจัดกิจกรรมและสร้างสีสันให้เมืองให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวคนไทย เช่น ทำจุดเช็กอินที่บริเวณชายหาด จัดงาน “หรอยริมเล” ทุกวันศุกร์และเสาร์ เพื่อให้ร้านค้าในป่าตองได้ออกร้านขายอาหาร ดึงคนมาเที่ยวป่าตองมากขึ้น ซึ่งจัดมาโดยตลอด ปรากฏว่าเมืองคึกคักขึ้นในช่วงที่จัดงาน มีคนไทยมาเที่ยวและเลือกหาของกินกันคึกคัก แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 2 นี้ ได้หยุดจัดไปก่อน เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับมาจัดงานหรอยริมเลอีกในทุกวันศุกร์และเสาร์เพื่อทำให้เมืองคึกคักขึ้น รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีหน้า
เพราะหากป่าตองไม่เปิดเพื่อดึงคนไทยมาเที่ยวนั้น สภาพเศรษฐกิจก็จะซบเซาไม่ต่างจากเมืองร้างแบบนี้ตลอดไป จะรอเปิดให้บริการเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมานั้นยังไม่รู้มาเมื่อไหร่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะกลับเข้ามาได้ ซึ่งคาดว่าถ้าจะรอต่างชาติก็คงต้องรอกันต่อไปไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี ระหว่างที่รอต่างชาติป่าตองจะต้องปรับตัวเองเพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวคนไทย และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาหลังโควิด-19 คลี่คลาย
ด้าน นายพีระ บุญแสง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม โฮเทล อินดิโก้ ภูเก็ต ป่าตอง หนึ่งในโรงแรมหาดป่าตองที่เปิดให้บริการแล้วในขณะนี้ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวคนไทยที่มาเที่ยวป่าตองยังถือว่าน้อยมาก ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่มาเที่ยวภูเก็ต ทำให้อัตราเข้าพักโรงแรมในป่าตองอยู่ที่ 5-10% เท่านั้น จึงทำให้โรงแรมส่วนใหญ่ยังปิดให้บริการ ส่วนโรงแรมที่เปิดแล้วก็ต้องรับภาระขาดทุนแต่ก็ต้องเปิดเพราะหากปิดทั้งหมดเมืองก็จะกลายเป็นเมืองร้าง
โดยผู้ประกอบการที่เปิดให้บริการจะต้องลดต้นทุนให้มากที่สุด เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด เช่น มีการปรับโครงสร้างพนักงานให้น้อยลง แต่ละคนสามารถทำงานได้หลายหน้าที่ด้วยการฝึกอบรมให้พนักงานทำงานได้มากกว่าหนึ่งหน้าที่ เช่น พนักงานครัว จากเมื่อก่อนที่แยกครัวแต่ละครัวก็รวมเป็นครัวเดียวกันเพื่อลดต้นทุนในหลายๆ เรื่อง ปรับลดเงินเดือนพนักงานโดยการลดวันทำงานแต่จะพิจารณาปรับลดในส่วนของกลุ่มหัวหน้างานและกลุ่มบริหารที่เงินเดือนสูง ส่วนพนักงานระดับปฏิบัติงานที่เงินไม่สูงจะปรับลดลงแต่ให้อยู่ในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าค่าครองชีพในแต่ละเดือนเพื่อไม่ให้พนักงานเดือดร้อนมากนัก ปรับราคาค่าบริการลงให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวคนไทยและคนในพื้นที่ เช่น ปรับลดค่าอาหารลงมา รวมถึงบริการต่างๆ ซึ่งเมื่อมีการปรับลดราคาลงมาก็ทำให้คนในพื้นที่มาใช้บริการมากขึ้น ทำให้โรงแรมคึกคักขึ้น
“ตั้งแต่เปิดให้บริการมาจนถึงขณะนี้ รายได้ที่เกิดขึ้นยังไม่เคยถึงจุดคุ้มทุนเลยแม้แต่เดือนเดียว แต่ก็ต้องเปิดเพื่อให้เมืองมีสีสันและคึกคักขึ้น เพราะหากรอเปิดเพื่อรับต่างชาติ คิดว่าคงจะต้องปิดยาวอย่างน้อย 1-2 ปี โดยคาดว่าปลายปี 64 น่าจะกลับมาบ้างหากมีวัคซีน แต่ก็คงจะไม่เข้ามามากเหมือนที่ก่อนเกิดโควิด-19 แต่ราคาค่าห้องพักก็ไม่น่าจะสูงเหมือนที่ผ่านมา” นายพีระ กล่าวในที่สุด