สุราษฎร์ธานี - ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติการรื้อถอนขนำผิดกฎหมายในอ่าวบ้านดอน พบล่าช้า หากหน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่ขยับบังคับการใช้กฎหมายให้เป็นไปตามแผนโรดแมปที่วางไว้ รายงานนายกรัฐมนตรีลงดาบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (21 ธ.ค.) พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 2 ลงพื้นที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจเยี่ยมและประชุมรับฟังสรุปผลการปฏิบัติการรื้อถอนขนำคอกหอยที่ผิดกฎหมายในพื้นที่สาธารณะ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรายงานผลการปฏิบัติงาน
พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส เปิดเผยว่า การปฏิบัติการรื้อถอนในขณะนี้ อยู่ในช่วงการดำเนินการในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ และอำเภอท่าฉาง โดยในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจขนำ คอกหอยในพื้นที่สาธารณะเรียบร้อยแล้ว พบขนำผิดกฎหมาย ทั้งหมด 434 ขนำ ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว 353 ราย เริ่มรื้อถอนแล้วกว่า 188 ขนำ แต่ยังคงเหลืออีก 246 ขนำ ที่ยังไม่ดำเนินการรื้อถอน ส่วนอำเภอท่าฉาง อยู่ในขั้นตอนของการสำรวจขนำ ซึ่งพบว่า มีผู้ประกอบการบางรายเริ่มทำการรื้อถอนแล้ว
สำหรับพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอพุนพิน ยังคงมีขนำที่ยังไม่ทำการรื้อถอน จำนวน 31 ขนำ อยู่ในระหว่างการดำเนินการในกระบวนการต่อสู้ทางคดี จำนวน 8 ขนำ โดย ศรชล. จะใช้อำนาจของ ปปง. มาดำเนินการออกคำสั่งให้รื้อถอน ส่วนขนำผิดกฎหมายอีก 23 ขนำ จะดำเนินการรื้อถอนโดยใช้อำนาจประมงและเจ้าท่าจังหวัดดำเนินการรื้อถอน ซึ่งทัพเรือภาค 2 จะให้การสนับสนุนด้านกำลังพล เพื่อให้การรื้อถอนขนำ คอกหอยในพื้นที่สาธารณะเป็นไปตามแผนโรดแมปที่วางไว้เดือนมีนาคม 2564 พื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอพุนพินจะต้องไม่ขนำตั้งอยู่กลางทะเล หากหน่วยงานใดยังไม่ขยับบังคับการใช้กฎหมายเตรียมรายงานตรงต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ดำเนินการต่อไป
พร้อมกันนี้ ทาง ผอ.ศรชล.ภาค 2 ได้มอบพยานเอกสารข้อมูลของผู้กระทำความผิดให้ ปปง. และสรรพากรไปดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
