กระบี่ - ชาวบ้านนากลาง อ.เกาะลันตา กว่า 50 คน รวมตัวคัดค้านการสร้างเขื่อนแก้ปัญหาเกาะลันตาขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้ง หวั่นทำสุสานที่ฝังศพบรรพบุรุษจมอยู่ใต้น้ำลึก 40 เมตร ด้านกำนันเผยยังไม่มีข้อสรุปว่าเลือกจุดใดสร้างเขื่อน ยังอยู่ในขั้นการสำรวจ
วันนี้ (12 ธ.ค.) ชาวบ้านนากลาง หมู่ที่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ประมาณ 50 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่กุโบร์ หรือสุสานบ้านนากลาง ซึ่งอยู่กลางหมู่บ้านและเป็นจุดที่จะมีการสร้างเขื่อน เพื่อคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนบริเวณดังกล่าวหลังจากมีเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานลงไปสำรวจพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเกาะลันตา เนื่องจากชาวบ้านหวั่นวิตกว่าเมื่อมีการสร้างเขื่อนเกิดขึ้นจะทำให้สุสานต้องจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากตัวเขื่อนกินพื้นที่กว่า 200 ไร่
นายมลตรี ไหมหมาด อายุ 46 ปี ครูสอนศาสนาอิสลาม บ้านเลขที่ 256 ม.3 ต.ลันตาใหญ่ กล่าวว่า การที่ชาวบ้านออกมาคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนที่บริเวณแห่งนี้เนื่องจากชาวบ้านวิตกว่าเมื่อมีการสร้างเขื่อนเกิดขึ้นจะทำให้กุโบร์ หรือสุสานที่มีการฝังบรรพบุรุษไว้จมน้ำหายไปด้วยเนื่องจากมีข้อมูลว่าพื้นที่ที่เป็นกุโบร์ หรือสุสานจะถูกน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 30 ถึง 40 เมตร ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริงจะมีผลทางด้านจิตใจของชาวบ้าน และหากถามว่าทำไมไม่ย้ายสุสานออกไปซึ่งในศาสนาอิสลามไม่มีการบัญญัติให้มีการย้าย
ด้าน นายเลิศศักดิ์ รักชาติ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 130 ม.3 ต.เกาะลันตาใหญ่ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่สุสาน หรือกุโบร์แห่งนี้ร่างของแม่ตนถูกฝังไว้เป็นคนแรก เมื่อประมาณ 60 กว่าปีที่ผ่านมา หากว่ามีการสร้างเขื่อนเกิดขึ้นเชื่อว่าร่างของแม่ตนก็จะจมอยู่ใต้น้ำอย่างแน่นอน ซึ่งตนและญาติๆ คงจะรับไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีร่างของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วอีกกว่า 30-50 คน ที่ถูกฝังไว้บริเวณแห่งนี้ ด้วยข้อเท็จจริงแล้วในพื้นที่เกาะลันตายังมีบริเวณอื่นอีกหลายที่ที่สามารถจะนำมาสร้างเขื่อนได้จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจจุดอื่นแทน
นายอรรถพล แจ้งเศษฐ์ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 146 ม.3 ต.เกาะลันตาใหญ่ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้ลงมาสำรวจพื้นที่ประมาณ 3-4 ครั้งแล้ว โดยครั้งล่าสุดเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา จึงได้บอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่าชาวบ้านบริเวณนี้ไม่ต้องการเขื่อนเนื่องจากจะกระทบต่อที่อยู่อาศัยและกุโบร์ และเท่าที่ดูข้อมูลพบว่า พื้นที่บริเวณนี้จะจมน้ำอยู่ใต้น้ำประมาณ 40 เมตร จึงได้ฝากบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าช่วยใส่ในรายงานการสำรวจว่ามีกุโบร์และบ้านเรือนของชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ด้วย พร้อมกันนี้ ตนยังได้ให้ข้อมูลไปด้วยว่ายังมีพื้นที่บริเวณใกล้เคียงที่ไม่กระทบกับชาวบ้านและมีเนื้อที่ประมาณ 3-4 ร้อยไร่ ซึ่งสามารถสร้างเขื่อนได้
ด้าน นายกมล กสิคุณ กำนัน ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจที่บริเวณบ้านนากลาง ต.เกาะลันตาใหญ่ เป็นพื้นที่คาบเกี่ยว 2 ตำบล ระหว่างตำบลศาลาด่าน และตำบลเกาะลันตาใหญ่ ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมาสำรวจพื้นที่สร้างเขื่อนและสอบถามความต้องการของชาวบ้าน เนื่องจากพบว่าในพื้นที่เกาะลันตาในช่วงหน้าแล้งจะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก โดยได้มีการสำรวจพื้นที่ไปประมาณ 3 จุด จุดแรกที่บ้านถ้ำเสือ ซึ่งอยู่ปลายเกาะลันตา จุดที่ 2 บ้านคลองโขง ซึ่งเป็นฝายน้ำเก่า และจุดที่ 3 คือ คลองไทร ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา ยังไม่ได้สรุปว่าจะสร้างที่จุดใด
"หากการก่อสร้างเขื่อนไปกระทบกับกุโบว์ ซึ่งเป็นสุสานเก่าแก่และเป็นที่ฝังร่างของบรรพบุรุษตนก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกับชาวบ้านที่จะไม่ให้มีการก่อสร้างเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ขอฝากไปยังชาวบ้านว่า อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เพราะขณะนี้เป็นเพียงการสำรวจพื้นที่เท่านั้น ยังไม่มีการกำหนดจุดว่าจะสร้างที่ใด และอยู่ที่ชาวบ้านว่าจะเห็นด้วยกับการก่อสร้างหรือไม่" นายกมล กล่าว