ตรัง - ผู้ว่าฯ จ.ตรัง ลงพื้นที่ ต.หนองตรุด หนึ่งในจุดน้ำท่วมหนัก เยี่ยมให้กำลังใจประชาชน และมอบถุงยังชีพ รวมทั้งตรวจสอบสภาพน้ำเพื่อเตรียมแผนรับน้ำรอบใหม่ หลังคาดการณ์ว่าจะเกิดฝนตกอีกครั้ง 10 ธ.ค.นี้
วันนี้ (9 ธ.ค.) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายอาชวงศ์ สาริพัฒน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง และนายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอเมืองตรัง ลงพื้นที่พบปะกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมชาว ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง เพื่อให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพ จำนวน 600 ชุด เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ยังได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือหากจะเกิดฝนตกอีกระลอก ตามที่มีการคาดการณ์กันไว้หลังวันที่ 10 ธ.ค.นี้ พร้อมให้ความมั่นใจว่า ทางจังหวัดเร่งแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเร่งสูบน้ำเพื่อผลักดันออกสู่ทะเลของกรมชลประทาน บริเวณสะพานคลองช้าง ซึ่งเป็นคอขวด เป็นผลทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างน่าพอใจในระยะเวลาอันสั้น แต่คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ สถานการณ์น้ำจะคลี่คลายลงภายใน 3-4 วันนี้ และหลังจากนั้น จะให้ผู้รับผิดชอบเร่งทำการสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับ ต.หนองตรุด มีผู้ประสบภัยทั้ง 8 หมู่บ้าน รวมจำนวน 658 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ยังคงพักอาศัยอยู่ภายในเต็นท์อพยพบนพนังกั้นน้ำตลอดแนว เนื่องจากระดับน้ำแม้จะลดระดับลง แต่ยังคงท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร และบางจุดที่ลุ่มต่ำยังท่วมสูงถึง 2 เมตร จึงยังเข้าไปพักอาศัยในบ้านไม่ได้
จากนั้น นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพถนนสายหนองตรุด-บ้านหลังเขา หมู่ 1 ต.หนองตรุด ซึ่งตลอดสองข้างทางยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือน และสวนปาล์มน้ำมัน ถนนสายดังกล่าวระยะทางประมาณ 300 เมตร ยังคงถูกน้ำไหลตัดผ่านสูงตั้งแต่ 40-50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้รถทุกชนิดผ่านได้ เนื่องจากหวั่นอันตรายที่จะเกิดจากสะพานชั่วคราว เพราะยังคงถูกน้ำท่วมขังบริเวณพื้นสะพาน หวั่นสะพานชำรุด ขณะที่นักเรียน และชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ยังคงต้องเดินลุยน้ำเข้าออกไปโรงเรียน หรือทำธุระนอกบ้าน
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ตรัง ขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะ อ.เมืองตรัง อย่างเช่น บนถนนเส้นทางผ่านสะพานแบริ่ง หมู่ 1 ต.หนองตรุด มีน้ำท่วมถนนสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร และจะลดระดับลงเรื่อยๆ เชื่อว่าอีกประมาณ 1-2 วันนี้คงเข้าสู่ภาวะปกติ โดยน้ำไม่เอ่อล้นคลองลัดน้ำแม่น้ำตรังอีกแล้ว เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ประกอบกับได้เร่งสูบน้ำระบายออกไปสู่ อ.กันตัง และทะเลอันดามัน โดยตั้งเครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง ไว้ที่หน้าโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยตรัง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางรัก อ.เมือง รวมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอีก 4 เครื่อง บริเวณปลายน้ำที่ อ.กันตัง ซึ่งจะช่วยระบายน้ำออกสู่ทะเลได้วันละไม่น้อยกว่า 400 ลูกบาศก์เมตร หลังจากนั้นก็จะสูบน้ำที่ยังท่วมขังอยู่นอกคันกั้นน้ำ กลับเข้าไปยังคลองลัดน้ำแม่น้ำตรัง และเร่งระบายปริมาณน้ำในคลองลัดน้ำให้ลดลงให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมการรองรับฝนที่คาดว่าจะเริ่มตกอีกครั้งหลังวันที่ 10 ธ.ค.นี้ และอาจมีมวลน้ำระลอกใหม่ลงมาอีก
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า ความจริงในช่วงฝนตกหนักก่อนหน้านี้ มีปริมาณน้ำฝนใน จ.ตรัง ไม่สูงมาก และไม่น่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้ แต่เนื่องจากที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีปริมาณน้ำฝนสูงมากประมาณ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงทำให้เกิดมวลน้ำมหาศาลลงสู่แม่น้ำตรัง แล้วเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มเป็นบริเวณกว้างในที่สุด
ส่วนโครงการก่อสร้างคลองลัดน้ำแม่น้ำตรัง ล่าสุดในส่วนของงานตัวคลองดำเนินการคืบหน้าไปแล้วราว 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ในส่วนของงานประตูระบายน้ำยังคืบหน้าแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้โครงการยังไม่สมบูรณ์ และรองรับน้ำได้แค่ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มีการก่อสร้างโครงการระบายน้ำไว้ จึงช่วยรองรับน้ำจาก อ.ทุ่งสง ได้จำนวนหนึ่ง ทำให้มวลน้ำเหล่านี้ไม่ไหลทะลักเข้าสู่ตัวเมืองตรัง จึงช่วยให้จุดพื้นที่เศรษฐกิจไม่เกิดน้ำท่วมในครั้งนี้
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ตรัง ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ 38 ตำบล 178 หมู่บ้าน คลี่คลายแล้ว 2 อำเภอ คือ อ.นาโยง และ อ.รัษฎา คงเหลืออีก 4 อำเภอ 19 ตำบล 88 หมู่บ้าน รวม 4,151 ครัวเรือน คือบางส่วนของ อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ อ.เมืองตรัง และกำลังเพิ่มระดับขึ้นใน 4 ตำบลของ อ.กันตัง พื้นที่ท้ายน้ำก่อนลงสู่ทะเล
