นครศรีธรรมราช - กรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ทั้ง 10 บาน เร่งระบายน้ำท่วมขังลุ่มน้ำปากพนัง ก่อนรับมวลน้ำระลอกใหม่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยี่ยมผู้ประสบภัยศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมังเชียรใหญ่พรุ่งนี้
วันนี้ (6 ธ.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ยังคงวิกฤต เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากตัวจังหวัดชั้นในไหลออกสู่แม่น้ำปากพนัง และระบายออกสู่อ่าวไทย โดยมวลน้ำเกือบทั้งหมดจะไหลผ่านประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โดยกรมชลประทาน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 10 บาน เพื่อเร่งระบายมวลน้ำที่กำลังท่วมขังอย่างหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังตอนกลาง ประกอบด้วย อำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักรับน้ำจากอำเภอเมือง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยมีต้นน้ำจากอำเภอลานสกา อำเภอร่อนพิบูลย์
ขณะเดียวกัน เป็นการเร่งระบายน้ำที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้แจ้งเตือนให้มีการเร่งระบายมวลน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เนื่องจากมีแนวโน้มจะมีมรสุมทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักในช่วงวันที่ 12-14 ธันวาคม อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีอุปสรรคในการระบายน้ำ นอกจากน้ำทะเลหนุนสูงเป็นระยะ ประตูน้ำบางแห่งยังเต็มไปด้วยสวะจำนวนมาก เช่น ประตูระบายน้ำคลองปากตรง ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง ซึ่งกำลังสร้างความไม่สบายใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่
ส่วนกำหนดการเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดิมทีประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์จะเป็น 1 ในจุดที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าตรวจเยี่ยมและติดตามการระบายน้ำ แต่ล่าสุดนั้นได้ปรับแผนการเดินทาง จะเดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์อพยพ และศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพียงจุดเดียว โดยจะใช้เวลาเยี่ยมประชาชน มอบเครื่องบรรเทาทุกข์ และรับฟังการบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร