สุราษฎร์ธานี - มวลน้ำจำนวนมากจากนครศรีธรรมราช ไหลลงมาในพื้นที่สุราษฎร์ธานี ทำระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ที่อำเภอพระแสง เลยจุดวิกฤตถึง 27 เซนติเมตร ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง จังหวัดประกาศเตือน 7 อำเภอเร่งขนย้ายของไว้บนที่สูง
วันนี้ (5 ธ.ค.) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มและอาศัยอยู่ในพื้นที่ 2 ฝั่งแม่น้ำตาปีตั้งแต่อำเภอพระแสง เวียงสระ เคียนซา บ้านนาสาร บ้านนาเดิม พุนพิน และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ต่างเร่งขนของขึ้นไปไว้ในที่ปลอดภัย โดยมีผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครมูลนิธิในพื้นที่และจากส่วนกลางกระจายลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ที่อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี วัดได้ 11.53 ม. (รทก.) สูงกว่าระดับวิกฤต 1.40 ม. ระดับวิกฤต 10.13 ม.
ในขณะที่ชาวบ้านท่าตะเภา ม.6 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน ต่างเร่งขนสิ่งของ สัตว์เลี้ยงมาไว้บนที่สูง และมาอาศัยอยู่บนถนนอย่างต่อเนื่อง พร้อมบอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้อาจจะนานกว่าน้ำท่วมในปี 2559 ที่ต้องนอนบนถนนนานถึง 2 เดือน
ในขณะที่นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยช่วงวันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค.2563 ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 16 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.วิภาวดี อ.ท่าฉาง อ.บ้านนาเดิม อ.เคียนซา อ.ชัยบุรี อ.พุนพิน อ.เวียงสระ อ.คีรีรัฐนิคม อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.บ้านนาสาร อ.พระแสง และ อ.พนม จำนวน 109 ตำบล 850 หมู่บ้าน 95 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 30,128 ครัวเรือน 90,530 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่มีผู้เสียชีวิต
ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนถุงยังชีพ จำนวน 4,000 ชุด โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบให้อำเภอพุนพิน 500 ชุด อำเภอท่าฉาง 700 ชุด อำเภอท่าชนะ 500 ชุด อำเภอเคียนซา 500 ชุด อำเภอบ้านนาเดิม 400 ชุด อำเภอกาญจนดิษฐ์ 400 ชุด และอำเภอดอนสัก 750 ชุด ไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย